วันนี้ (10 มกราคม) ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุถึงกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวานนี้ (9 มกราคม) ซึ่งเป็นการขยับบทบาทมาเป็นนักการเมืองแบบเต็มตัว โดยระบุว่า ผมรู้สึกสังเวชใจกับเวลาและโอกาสที่ประเทศสูญเสียไป 8 ปี เพื่อได้เห็นท่านขึ้นเวที เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ
ณัฐวุฒิระบุอีกว่า หากท่านลาออกหรือเกษียณอายุราชการ เดินเข้าสนามการเมือง ถือเป็นเรื่องยอมรับได้ แต่การฝังตัวในกองทัพและแฝงกายเข้ามามีบทบาททางการเมืองกว่า 10 ปี จนกระทั่งก่อการรัฐประหาร เขียนกติกาสืบทอดอำนาจ ถึงวันนี้ยังดื้อด้านจะอยู่ต่อ เป็นเรื่องเกินรับไหว ไม่มีการปฏิรูปการเมือง มีแต่ธนกิจการเมือง แจกกล้วย ซื้อตัวกันโจ่งแจ้งไร้ยางอาย
ยาเสพติดเต็มเมือง ทุนสีเทาเหิมเกริมเติบใหญ่ ข้าราชการกังฉินขูดรีดผู้น้อย กระบวนการตรวจสอบอ่อนเอนตามอำนาจ คนจนยิ่งจน คนรวยยิ่งรวย คนใกล้ชิดยิ่งใหญ่ บ้านเมืองยังคงแตกแยก แม้แต่ 3 ป. ก็แตกกัน จะสร้างความสามัคคีในหมู่ประชาชนได้อย่างไร
ณัฐวุฒิระบุว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่เลวร้ายกว่านักการเมืองทั้งหลายที่ท่านเคยเหยียดหยาม ไร้ความสามารถ เอาแต่ได้ เป็นนายกฯ จากพรรคหนึ่งแล้วไปสมัครสมาชิกอีกพรรคก็ยังทำ ไม่รู้จักพอ คิดว่าตัวเองดีเหนือคนอื่น ทรงอย่างบ๊อง ติงต๊องอย่างบ่อย
ตั้งพรรคโดยรู้ว่าแพ้แน่ แต่คิดเป็นนายกฯ ด้วยเสียง ส.ว. ที่ตั้งไว้ ร่างรัฐธรรมนูญปราบโกง ด้วยเจตนาโกงอำนาจประชาชน กล่าวอ้างว่าเป็นรัฐบาลเพราะมีเสียงข้างมากจาก ส.ส. ทั้งที่อาศัยเสียงปัดเศษ คะแนนพรรคเล็กแยกเป็นรายเขต น้อยกว่าคะแนนโหวตโนในเขตนั้น จะอ้างเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร
“ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ต้องไม่ไปทางเดียวกับที่ท่านลากถูลู่ถูกังมา 8 ปี บนเวทีที่ท่านยืน มีแต่เงาอดีต ไม่เห็นภาพอนาคต สิ่งที่พูดไม่ใช่วิสัยทัศน์ มีแต่วิสัยท่าน เรื่อยเปื่อย กว้างๆ ลอยๆ ไม่มีอะไรชัดเจน ผมเขียนหวังให้ท่านได้อ่าน เผื่อจะได้ทบทวนว่าเป็นจริงตามนี้หรือไม่ และตัดสินใจพอเสียตอนนี้ ขอแสดงความเฉยๆ” ณัฐวุฒิระบุทิ้งท้าย
อ้างอิง: