วันนี้ (9 มกราคม) ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทำกิจกรรมเพื่อทวงถามข้อเท็จจริงกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่มีข้อมูลว่า หลานชายของ พล.อ. ประยุทธ์มีส่วนเกี่ยวข้อง และไปทำธุรกิจรถทัวร์กับ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว หรือไม่
โดยชูวิทย์ได้อธิบายการมาทวงถามวันนี้ ผ่านการเขียนกระดานเพื่อให้เห็นภาพเครือข่าย พร้อมระบุว่า ปัญหาการทุจริตเป็นปัญหาหลักของประเทศไทยที่อาจจะเกิดจากหน่วยงานรัฐ ผู้ใกล้ชิด นักการเมือง และวงศาคณาญาติ
การที่ พล.อ. ประยุทธ์จะมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีใครตำหนิ และการที่อยากเป็นนายกฯ อีกสมัยก็ไม่มีใครตำหนิ แต่พล.อ. ประยุทธ์ต้องแก้ไขปัญหาทุจริตด้วย ซึ่งวันนี้ที่ พล.อ. ประยุทธ์เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ควรจะเริ่มจากวันนี้เป็นต้นไปจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด
การเดินทางมาของตนเองในวันนี้ ไม่ได้ต้องการมาป่วนงาน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง แต่ตนเองมาในฐานะประชาชน ที่ต้องการมาทวงถามว่าจะแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันอย่างไร
และต้องการทวงถาม พล.อ. ประยุทธ์ 2 ข้อ คือ 1. หลานชายของ พล.อ. ประยุทธ์ไปทำธุรกิจอะไรกับตู้ห่าว ทำธุรกิจรถทัวร์กับตู้ห่าวหรือไม่ ซึ่งบริษัทนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีผับจินหลิง เพราะทำมาตั้งแต่ปี 2562 แต่เกี่ยวข้องกับตู้ห่าว และเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการฟอกเงิน
และ 2. พล.อ. ประยุทธ์จะมีการสั่งการให้ตำรวจเรียกหลานชายตนเองมาสอบปากคำหรือไม่ แบบกรณีกองสลากพลัส ที่เรียกสอบปากคำเมื่อพบความเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน
ชูวิทย์กล่าวต่อว่า ตนเองให้เวลา 3 เดือนสุดท้ายที่ พล.อ. ประยุทธ์จะจัดการปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน หากสามารถจัดการได้ตนเองจะเลือก พล.อ. ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกสมัยหนึ่ง เพราะวันนี้ประเทศมืดมิดมาก เป็นนายกฯ มา 8 ปี ต้องพอที่จะเรียนรู้ว่าประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นวันนี้ตนเองต้องมาทวงถามว่าจะแสดงวิสัยทัศน์ไปทำไม ในเมื่อวิสัยทัศน์ที่แสดงที่ผ่านมายังไม่ได้ทำให้เต็มที่
โดยระหว่างการแถลงข่าว ชูวิทย์ได้จุดเทียนและถือตะเกียง เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการส่องหาแสงสว่างถึงวิสัยทัศน์การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันของ พล.อ. ประยุทธ์ด้วย