×

‘แม็ค อัลลิสเตอร์’ สายเลือดคู่บุญเทพเจ้าลูกหนังอาร์เจนตินา (เป้าหมายต่อไปของอาร์เซนอล?)

22.12.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MIN READ
  • อเล็กซิสเป็นสายเลือดของครอบครัว แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งมีเชื้อสายชาวสกอตติช-ไอริช โดยพื้นเพของตระกูลนี้อยู่ที่เมืองคูเชนดอลล์ (Cushendall) ก่อนจะย้ายไปอยู่หมู่บ้านโดนาเบต (Donabate) ซึ่งอยู่ทางเหนือของกรุงดับลินไปราว 10 ไมล์
  • บ้าน แม็ค อัลลิสเตอร์ นั้นถือเป็นตระกูลคู่บุญเทพเจ้าลูกหนังอาร์เจนตินา เพราะพ่อของเขา คาร์ลอส แม็ค อัลลิสเตอร์ เคยเล่นร่วมกับ ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา ผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยพาทีมฟ้าขาวพิชิตแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก แม้ว่าจะไม่ได้มีชื่อทีมติดชุดนั้นก็ตาม

ลิโอเนล เมสซี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จ ก็เพราะมีขุนพลรอบกายที่ยอดเยี่ยม คนที่พร้อมสู้ด้วยหัวใจเพื่อพากัปตันและทีมชาติอาร์เจนตินาของพวกเขาคว้าแชมป์มาครองให้ได้

 

ชื่อของ ฮูเลียน อัลวาเรซ, เอนโซ เฟร์นันเดซ, โรดริโก เด ปอล จนถึง เอมิเลียโน มาร์ติเนซ จึงถูกกล่าวถึงมากเป็นพิเศษ จากผลงานที่โดดเด่นของพวกเขาในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา เพียงแต่ยังมีอีกหนึ่งคนที่มีความสำคัญไม่ได้น้อยไปกว่ากัน และบางทีหากไม่มีเขาคนนี้ อาร์เจนตินาอาจจะไปไม่ถึงฝันก็ได้

 

นักเตะคนดังกล่าวคือ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์สมองเพชรที่เล่นได้สารพัดตำแหน่งและบทบาท เรียกว่าเป็น Unsung Hero ที่ปิดทองอยู่หลังพระตัวจริง และเป็นหนึ่งในคนที่ช่วยพลิกฟอร์มของทีม โดยนับจากได้ลงตัวจริงครั้งแรกในเกมกับเม็กซิโก อาร์เจนตินาก็ชนะรวดทุกนัดโดยที่เจ้าตัวเองทำได้หนึ่งประตูด้วยในเกมกับโปแลนด์

 

เพียงแต่ผลงานที่โดดเด่นของเขาตลอดรายการที่กาตาร์ ทำให้เวลานี้ แม็ค อัลลิสเตอร์ กลายเป็นนักเตะที่แฟนฟุตบอลให้ความสนใจ เพราะมันมีหลายอย่างที่หากไม่ได้ติดตามมาก่อนก็อาจจะทำความเข้าใจได้ตั้งแต่ทำไมชื่อ นามสกุล ไปจนถึงรูปลักษณ์ถึงดูไม่เหมือนนักเตะจากลาตินอเมริกานัก ไปจนถึงทำไมนักเตะจากทีมเล็กๆ อย่างไบรท์ตันถึงกลายเป็นกำลังสำคัญของอาร์เจนตินาได้

 

ความจริงแล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นหนึ่งในดาวเด่นของพรีเมียร์ลีกในฐานะกองกลางตัวทำเกมที่มีความสามารถโดดเด่น ไม่เพียงแต่สร้างสรรค์เกมได้อย่างชาญฉลาด แต่ยังมีความสามารถในการจบสกอร์ได้ด้วย และมีทีเด็ดโดยเฉพาะจากลูกฟรีคิก

 

อเล็กซิสเป็นสายเลือดของครอบครัวแม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งมีเชื้อสายชาวสกอตติช-ไอริช โดยพื้นเพของตระกูลนี้อยู่ที่เมืองคูเชนดอลล์ (Cushendall) ก่อนจะย้ายไปอยู่หมู่บ้านโดนาเบต (Donabate) ซึ่งอยู่ทางเหนือของกรุงดับลินไปราว 10 ไมล์

 

จนกระทั่งในปี 1868 ที่คุณชวดของตระกูลตัดสินใจที่จะอพยพย้ายถิ่นฐานจากโดนาเบตไปอยู่ลาตินอเมริกาเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเป็นการเริ่มต้นของตระกูลแม็ค อัลลิสเตอร์ในอาร์เจนตินา ซึ่งแตกแขนงออกไปทั้งในบัวโนสไอเรส และลาปัมปา (La Pampa) ซึ่งอยู่ทางตอนกลางของอาร์เจนตินา

 

โดยมีเกร็ดที่น่าสนใจคือ ในตระกูลแม็ค อัลลิเสตอร์ ที่แตกออกไปนั้นมีการสะกดนามสกุลที่แตกต่างกันด้วย มีทั้งในแบบ L ตัวเดียว (McAlister), L สองตัว (McAllister) และแยกพยางค์กัน (Mac Allister) ซึ่งก็คือครอบครัวของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ นั่นเอง

 

สิ่งที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินแล้วคือ บ้าน แม็ค อัลลิสเตอร์ นั้นถือเป็นตระกูลคู่บุญเทพเจ้าลูกหนังอาร์เจนตินา เพราะพ่อของเขา คาร์ลอส แม็ค อัลลิสเตอร์ เคยเล่นร่วมกับ ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดนา ผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยพาทีมฟ้าขาวพิชิตแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก แม้ว่าจะไม่ได้มีชื่อทีมติดชุดนั้นก็ตาม

 

โดยในยุคนั้นมาราโดนาจะเรียกคาร์ลอสว่า ‘โคโล’ ซึ่งแปลว่า ‘ขิง’ ที่มาจากสีผมจิงเจอร์เฮดแบบชาวไอริชที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านนี้นั่นเอง

 

​​

คาร์ลอส แม็ค อัลลิสเตอร์ (เสื้อขาวยืนหลังสุด) คุณพ่อที่เคยคว้าแชมป์โลกกับมาราโดนา มาร่วมฉลองแชมป์โลกของลูกชายด้วย

 

ความจริงบ้านนี้จัดว่าเตะฟุตบอลเก่งทั้งบ้าน โดยนอกจากคาร์ลอสแล้ว ปาตริซิโอ พี่ชายของเขาก็เคยเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรในอาร์เจนตินา เม็กซิโก และไปไกลถึงญี่ปุ่นด้วย ในขณะที่ตัวของอเล็กซิสเอง พี่ชายของเขาอย่าง ฟรานซิส และ เควิน แม็ค อัลลิสเตอร์ ก็เป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนกัน

 

สโมสรแรกของพวกเขาทุกคนคืออาร์เจนติโนส จูเนียร์ส ซึ่งเป็นสโมสรที่ปั้นโคตรนักบอลอย่าง มาราโดนา, ฮวน โรมัน ริเกลเม และ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ มาก่อน โดยที่มีวันพิเศษอย่างยิ่งสำหรับพี่น้องทั้ง 3 คนเมื่อ ฟรานซิส, เควิน และอเล็กซิส ได้ลงเล่นให้ทีมพร้อมกันในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2017

 

“วันนั้นเป็นวันที่เราสามคนได้โอกาสลงเล่นพร้อมกัน มันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อครอบครัวของเขา ทุกคนยังภูมิใจกับเรื่องนี้จนถึงวันนี้ และเราก็สนุกกันมาก”

 

จากวันนั้น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้ถูกไบรท์ตันคว้าตัวมาร่วมทีม ซึ่งแม้จะต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมายาวนาน ถึงขั้นที่แม่และพี่ชายทั้งสองต้องเดินทางมาให้กำลังใจในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่สุดท้ายเขาก็เอาชนะทุกสิ่งได้

 

“ปีแรกมันยากมากสำหรับผม มันเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตอนที่ผมมาอยู่ที่นี่ผมรู้ตัวทันทีว่าสภาพร่างกายผมไม่พร้อมสำหรับจะเล่นในพรีเมียร์ลีก หรือในทีมที่อยากได้ตัวผม ผมเจ็บปวดมาก ร้องไห้ตลอด คิดถึงครอบครัวกับเพื่อนๆ แต่ผมรู้ว่าผมมีความสามารถที่จะเล่นที่นี่ได้แน่” อเล็กซิสเล่า

 

“แม่กับพี่ชายสองคนของผมมาเยี่ยมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และพวกเขาก็เป็นคนที่มอบความเข้มแข็งให้กับผม เพราะมันมีช่วงเวลาหลายเดือนที่ผมไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียว แต่พอหลังจากเกมในวันที่ 26 ธันวาคม (บ็อกซิ่งเดย์) ผมก็ได้ลงตัวจริงนัดแรก และหลังจากนั้นผมก็ได้ลงตัวจริงทุกนัด”

 

ถึงตอนนี้เขากลายเป็นแชมป์โลกไปแล้ว และในวัย 23 ปี เส้นทางของเขายังอีกยาวไกล ซึ่งตอนนี้ทำนายได้ไม่ยากว่าไบรท์ตันจะได้รับข้อเสนอจากทีมใหญ่สักทีมที่พร้อมจะดึงตัวนักเตะกองกลางเทคนิคดี เบสิกแน่น และฉลาดเป็นกรดอย่างเขาไปร่วมทีม

 

หนึ่งในนั้นคืออาร์เซนอลที่มีข่าวให้ความสนใจอยากได้ตัวมาร่วมทีมนี้ ซึ่งเรื่องความสนใจจากทีมกันเนอร์สเป็นความจริงไหมนั้นยังบอกยาก นอกจากนี้ยังมีท็อตแนม ฮอตสเปอร์ รวมถึงแอตเลติโก มาดริด ที่พร้อมจะแย่งตัวมาร่วมทีมด้วย

 

แต่สิ่งที่บอกได้แน่ๆ คือ ทีมไหนได้ตัวนักเตะรายนี้ไปคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะนี่คือนักเตะดีกรีแชมป์โลก เล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กับ ลิโอเนล เมสซี มาแล้ว

 

เท่าไรก็จ่ายไปเถอะ!

 

อ้างอิง:

 

ถึงจะเล่นทีมเดียวกันแต่ไม่กล้าคุยด้วยเท่าไร

FYI
  • ครั้งหนึ่ง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้มีโอกาสเจอกับ แกรี แม็คอัลลิสเตอร์ ตำนานกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยโค้ชของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ในทีมแอสตัน วิลลา และมีการถามกันถึงเรื่องนามสกุล เรื่องราวในตระกูล แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ข้อสรุปว่าตกลงแล้วเป็นญาติกันหรือไม่
  • อเล็กซิสเปิดเผยว่าถึงจะเล่นทีมชาติด้วยกัน แต่เขาก็ไม่ค่อยได้คุยกับเมสซีมากนัก เพราะปกติก็เป็นคนขี้อายและไม่อยากจะไปวุ่นวายกับเมสซี
  • ฮีโร่ในวัยเด็กของเขาคือ ฮวน โรมัน ริเกลเม กับ ปาโบล ไอมาร์ แต่เมสซีก็เป็นนักเตะที่เขาชื่นชมเช่นกัน
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising