ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีประเด็นข่าวไหนจะสร้างแรงสั่นสะเทือนไปได้มากกว่าข่าวป้าทุบรถ ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนลุกลามต่อเนื่องกลายเป็นกระแสระดับประเทศ
จากเรื่องวิวาทหน้าบ้านที่กลายเป็นคลิปไวรัลในชั่วข้ามคืนสู่ประเด็นที่ใหญ่กว่านั้น เพราะส่ิงที่คุณป้าในคลิปทำลงไปเป็นการสะท้อนปัญหาที่คั่งค้างมานับ 10 ปีในเรื่องการจัดสรรพื้นที่ที่ไม่มีหน่วยงานใดเหลียวแล จนกระทั่งเรื่องนี้จุดกระแสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในไม่กี่วัน เพราะหน่วยงานรัฐต่างขยับตามแรงกดดันของคนในสังคม
แม้ที่ผ่านมา บุญศรี และรัตนฉัตร แสงหยกตระการ สองคุณป้าผู้จุดกระแสการเรียกร้องสิทธิในพื้นที่อยู่อาศัยจะตระเวนไปให้สัมภาษณ์กับสื่อและรายการทีวีมากมาย แต่คงไม่มีครั้งไหนที่คุณป้าจะเปิดใจแบบหมดเปลือกในทุกประเด็นอย่างที่ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD Daily ซึ่งดำเนินรายการโดย ต๊ะ-พิภู พุ่มแก้วกล้า เมื่อค่ำคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และนี่คือบทสนทนาที่เกิดขึ้นในวันนั้นแบบเต็มๆ
อยากจะเรียนถึงท่านผู้ว่าฯ กทม. ท่านมีนักกฎหมายล้อมรอบตัวท่านตั้งเยอะ ท่านไม่ทราบเลยเหรอว่าการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินมันมีความชัดเจนอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว วันนี้ท่านมาพูดว่า 2 ตลาดที่เหลือก่อสร้างเป็นการพาณิชย์ เพียงแต่ว่าเขาขายอาหารสด ต้องเปลี่ยนเป็นขายอาหารแห้ง ถ้าท่านคิดว่าทำได้ก็เท่ากับว่าท่านกำลังทำผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนกฎหมาย
ถามคุณป้าทั้งสองก่อนเลยว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา รู้สึกเหนื่อยไหมครับ
ป้าฉัตร: ก็เหนื่อย แต่มันก็ต้องสู้แล้วนะ แล้วต้องสู้ทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า เพราะมีการเบี่ยงประเด็น
ตั้งแต่เกิดเรื่องมา ไปออกมากี่รายการแล้ว
ป้าฉัตร: มากกว่า 10 แล้ว
ป้าบี: แต่เราก็มีกำลังใจจากผู้ที่ได้ทราบข้อเท็จจริงที่เขาไม่เคยทราบ เขาก็จะได้ทราบอย่างถูกต้อง เพราะปกติเขาอาจจะงงๆ หรือเข้ามาแบบรู้บ้างไม่รู้บ้าง วันนี้ก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้านเสรีวิลล่า
4-5 วันนี้ชีวิตคงเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมาที่ต่อสู้เรื่องนี้มานาน จากที่ไปออกมาหลายรายการ มีอะไรที่รู้สึกว่ายังพูดไม่หมดแล้วอยากพูดอีกไหม
ป้าฉัตร: คือจากการที่ผู้ว่า กทม. ลงพื้นที่ในวันที่อยู่หน้าบ้านแล้วเราไม่อยู่ หลังจากนั้นก็มีการปิดเพียง 3 ตลาด อีก 2 ตลาดจะให้เวลาอีก 7 วันเพื่อไปแก้ไขเอกสารให้ถูกต้อง ถามว่าผู้ว่าฯ กทม. ได้ดูหรือยังว่าบริเวณนี้เป็นที่จัดสรรเพื่ออยู่อาศัย จะไปปล่อยให้แก้เอกสารจากที่ขายอาหารสดกลายเป็นอาหารแห้ง มันจะได้ยังไง มันเป็นที่อยู่อาศัยนะคะ แล้วท่านกำลังเบี่ยงประเด็นนะว่าทำให้เสร็จ แล้วถ้าถูกต้องผมจะให้เปิด
แสดงว่าในมุมของคุณคือต้องปิดหมด ไม่ใช่แค่แก้ไขแล้วกลับมาเปิดได้
ป้าฉัตร: ใช่ค่ะ เพราะเป็นความกังขาของคนในหมู่บ้านเสรีวิลล่า เพราะเขาก็คุยกันในไลน์ของหมู่บ้านว่าอย่างนี้ผู้ว่าฯ กทม. เล่นปาหี่ เพราะมันก็เหมือนเดิม
แสดงว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับบ้านหลังใหญ่หลังนี้
ป้าฉัตร: ไม่เลยค่ะ ทุกคนร้องเรียนมากันหมด แต่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์เหมือนกับเราที่ต้องไปฟ้อง ไปร้องทุกจุด จนต้องทุบรถ
ป้าบี: อยากจะเรียนถึงท่านผู้ว่าฯ กทม. ท่านมีนักกฎหมายล้อมรอบตัวท่านตั้งเยอะ ท่านไม่ทราบเลยเหรอว่าการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินมันมีความชัดเจนอยู่ในตัวของมันอยู่แล้ว วันนี้ท่านมาพูดว่า 2 ตลาดที่เหลือก่อสร้างเป็นการพาณิชย์ เพียงแต่ว่าเขาขายอาหารสด ต้องเปลี่ยนเป็นขายอาหารแห้ง แล้วหาที่จอดรถ ถามว่าที่จอดรถก็คือที่อยู่อาศัยใช่หรือไม่ แล้วที่ตั้งของการพาณิชย์อันนี้เขาระบุอย่างชัดเจนว่าหมู่บ้านเสรีวิลล่าจำนวน 289 แปลงเป็นบ้านเดี่ยว ไม่มีพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ ไม่มีพื้นที่เพื่อการอุตสาหกรรม แล้วตลาด 2 แห่งนี้เป็นโครงการพาณิชย์ หรือแม้แต่ดัดแปลงบ้านเดี่ยวมาทำซูเปอร์มาร์เก็ต ถามว่าทำได้ยังไง
ถ้าท่านคิดว่าทำได้ก็เท่ากับว่าท่านกำลังทำผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะเอกสารฉบับนี้ไม่ได้ออกมาจากครอบครัวแสงหยกตระการนะคะ เอกสารฉบับนี้ออกมาจากกรมจัดสรรที่ดิน ณ เวลานั้นผู้ว่าฯ กทม. ก็อยู่เป็นคณะกรรมการด้วยตั้งแต่ปี 2526 เพราะฉะนั้นความชัดเจนมันมีอยู่ ท่านมีผู้รู้ทางกฎหมายชัดเจน วันนี้ถ้าท่านจะแก้ปัญหา ท่านมีอำนาจอยู่ในมือเต็มไปหมด ท่านสามารถที่จะทำได้ เพราะท่านบอกแล้วว่าอะไรที่เป็นกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืน ท่านเป็นคนตรง แต่ต้องตรงให้สุด เพราะประชาชนเดือดร้อนมาก
ถ้าฟังจากคุณป้าทั้งสองท่านตอนนี้เหมือนยังไม่เชื่อมือผู้ว่าฯ อัศวินว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
ป้าบี: เพราะว่าความชัดเจนก็อย่างที่บอกไปแล้ว ตัวป้ายังไม่ได้ดูข่าว แต่มีนักข่าวถามหลายรายการว่าถ้าปิด 3 เปิด 2 คำว่าปิดตลาดนี้ ตลาดต้องรื้อถอนออกไปใช่ไหม หรือปิดเฉพาะหน้าฉาก โครงสร้างยังอยู่ อันนี้ก็ไม่รู้ เสร็จแล้วอีก 2 ตลาดบอกว่าขอมีใบอนุญาตการพาณิชย์ ก็ถามว่า เอ๊ะ มันใบอนุญาตอะไร เพราะบอกแล้วว่าพื้นที่จัดสรรนี้มันไม่มีการพาณิชย์ พื้นที่มันไม่มีเพื่อที่จะทำการพาณิชย์ แล้วไปงอกมาได้ยังไง
แต่อีกประเด็นคือถนนหมู่บ้านเสรีวิลล่ามันมีความประหลาดว่าเคยเป็นถนนคอนกรีตที่สวยงาม เมื่อเป็นบ้านเดี่ยวแล้วความสวยงามมันต้องมีมากกว่าหมู่บ้านอื่น ผิวถนนเรียบมาก สวยงาม ขับรถสบาย ทุกอย่างสวยงาม สงบ ราบเรียบ สิ่งแวดล้อมดีมาก แต่ปัจจุบันถามว่าไปลาดยางมะตอยจากหน้าสวนหลวง ร.9 ไปจรดอยู่ที่ถนนศรีนครินทร์ แล้วไปออกใบอนุญาตโดยใช้คำว่าซอยศรีนครินทร์ 55 ได้อย่างไร ในเมื่อข้อเท็จจริงนี่คือถนนหมู่บ้านเสรีวิลล่า มันไม่ใช่ถนนซอยศรีนครินทร์ 55
หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ไปแจ้งข้อกล่าวหาก็บอกว่าซอยศรีนครินทร์ 55 ถามว่าตำรวจก็ทราบใช่ไหมคะว่านี่คือหมู่บ้าน ทำไมไม่บอกว่าเหตุการณ์มันเกิดที่หมู่บ้าน ทำไมไปบอกว่าเหตุเกิดที่ศรีนครินทร์ 55 งงมากเลยค่ะ
เราไม่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ การที่คุณกล่าวหาว่าเราสร้างสถานการณ์ก็เพื่อที่คุณจะสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายหมู่บ้านเรา
คือมองว่าคำที่แตกต่างกันนี้ก็จะทำให้การต่อสู้หรือความเข้าใจผิดของคนต่างกันแล้ว
ป้าบี: แน่นอนค่ะ
ป้าฉัตร: เขาบิดเบือน ต้องอธิบายว่าปากซอยของแต่ละซอยบนถนนศรีนครินทร์ก็จะเขียนว่าศรีนครินทร์ 12, ศรีนครินทร์ 17, ศรีนครินทร์ 55 แต่เข้ามานิดหนึ่งก็จะถูกบล็อกด้วยถนนอีกเส้นหนึ่ง แล้วภายในก็คือถนนซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่าที่จะแยกเป็นซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า 1, 2, 3, 4 ทำไมคุณไม่เขียนล่ะว่าคุณก่อสร้างตลาดในซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า เพราะถ้าทำอย่างนั้น มันยิ่งชัดเจนเลยว่าทำไม่ได้ แต่เขาไปบิดเบือนประชาชนในหมู่บ้าน บิดเบือนคนทั้งประเทศ คนทั้งโลก โดยใช้คำว่าถนนศรีนครินทร์ 55 แล้วก่อสร้างเกือบ 10 ตลาดในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ปล่อยให้ทำตลาดเกือบ 10 ปี แล้วปรากฏว่าเมื่อเราร้องเรียน เกิดเหตุการณ์ขึ้น คุณถึงมาแจ้งให้ทราบว่าตลาดเหล่านี้ไม่ได้รับใบอนุญาต
ตอนนี้มีบางกระแสบอกว่าคุณป้าจัดฉาก ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของรถกระบะสีขาวคือคนรู้จักกันที่จ้างมาเพื่อให้เป็นข่าว อยากอธิบายตรงนี้อย่างไร
ป้าฉัตร: อ๋อ ไม่เคยรู้จักกับเขาเลย แล้วทำให้เรางง ทำให้เราคิดไปอีกประเด็นหนึ่งเลยว่า เอ๊ะ เพราะว่าเราไปฟ้องเป็นคดีที่ 3 เรื่องการคัดค้านการก่อสร้างอาคารสูง อาคารบ้านแฝด บ้านแถวในหมู่บ้านเสรีวิลล่าหรือเปล่า
การที่เขาสร้างสถานการณ์อย่างนี้ก็เพื่อให้ตลาดออกไปแล้วค่อยมาสวมสร้างอาคารคอนโดฯ เลยใช่หรือไม่ ใครเป็นคนสร้างสถานการณ์นี้ เราไม่รู้จักกับผู้หญิงคนนี้ การที่คุณกล่าวหาว่าเราสร้างสถานการณ์ก็เพื่อที่คุณจะสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายหมู่บ้านเราโดยให้มีการสร้างอาคารสูงในหมู่บ้านเสรีวิลล่าหรือ
ผมคิดอย่างนี้ว่าถ้าจะสร้างสถานการณ์ ทำไมเพิ่งคิดได้
ป้าบี: นั่นสิ เพราะก่อนหน้านั้นมันก็มีการจอดรถขวางอยู่นะ น่าจะทำตั้งแต่ตอนนั้นเลย
สำหรับเรื่องทุบรถ ถามนิดหนึ่งว่าทำไปแล้วเสียใจไหมที่ไปทุบรถเขาเสียหาย
ป้าฉัตร: เอ่อ เสียใจที่ตัวเองมันไม่ใช่บุคลิกนั้น แต่ทำไปแล้วทุกคนได้ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น
คือเสียใจที่ทำให้ภาพลักษณ์กลายเป็นคนก้าวร้าว ซึ่งปกติแล้วคุณป้าเป็นคนใจดี
ป้าฉัตร: ใช่ค่ะ ไม่เคยบู๊เลย พอกลายเป็นฝ่ายบู๊ขึ้นมาก็เลยงงเหมือนกัน
ในชีวิตนี้เคยทำอะไรรุนแรงที่สุดบ้าง
ป้าฉัตร: ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต เบรกแตก เลยกลายเป็นวันดีเดย์ของวันตรุษจีนให้ทุกคนได้รับทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ป้าบี: ถ้าจะเกิดเหตุการณ์นั้น รถมาบล็อกหน้าบ้าน ใส่เกียร์เหมือนกัน ใส่เบรกมือเหมือนกัน เข้าบ้านไม่ได้ (โชว์รูปที่คนมาช่วยกันยกรถ) แต่วันที่ยกรถคือวันนั้นรถจะเข้าบ้าน วันที่ 18 คือรถจะออก สถานการณ์นี้น่าจะทำก่อนหน้านี้ใช่ไหม แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือมีรถมากั้นหน้าบ้านทุกวัน ต้องรอให้เขาซื้อของเสร็จทุกครั้ง แล้วถามว่าสถานการณ์จะมาในวันที่ 18 ทำไม น่าจะเกิดตั้งแต่ปี 2552 ด้วยซ้ำ ไม่ต้องรอถึง 10 ปี อันนั้นน่าจะจบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เราจะจัดฉากเพื่ออะไร เราไม่ได้รับผลประโยชน์
ขั้นตอนต่อไปอยากจะทำอะไรเกี่ยวกับคดีนี้
ป้าฉัตร: ก็คือขอคืนความสุขให้กับประชาชน โดย คสช. เข้ามาร่วมช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุด
อยากให้ถึง คสช. เลยเหรอ
ป้าบี: คือเราใช้เวลาถึง 10 ปี เราก็ได้ร้องไปที่หัวหน้า คสช. ให้เข้ามาจัดการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แล้วก็คืนความสงบสุขให้กับประชาชน ท่านผู้ว่าฯ ทราบไหมว่าท่านกำลังทำร้ายแล้วก็ทำลายความสงบสุขของประชาชน นี่คือความผิดร้ายแรงมาก
มีคนถามว่าคุณป้าเคยคิดจะขายบ้านหลังนี้เพื่อหนีความวุ่นวายไหม
ป้าฉัตร: คือถ้าหากเราเป็นผู้ถูก แล้วเราขายบ้าน ผู้ผิดอยู่ในพื้นที่ รู้สึกว่ามันจะผิดปกตินะ
ป้าบี: เราได้รับยาชูกำลังจากกำลังใจของประชาชน
สู้มาขนาดนี้ เคยนับไหมว่าเสียเงินไปเท่าไรแล้ว
ป้าบี: มันมากมายมหาศาล มันเยอะกว่าล้าน
ป้าฉัตร: แผ่นป้ายที่เราติดตามกำแพงก็หลายพันแล้ว แล้วเราเปลี่ยนด้วยนะ
เคยคิดจะเปลี่ยนดีไซน์แผ่นป้ายบ้างไหม
ป้าบี: ก็อยากจะเปลี่ยน เพราะตอนนี้มันมีสตอรีใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ก็อยากจะใส่เหมือนกัน ตลอดกำแพงนี้ยังมีพื้นที่อยู่
ป้าฉัตร: คือยังมีแผ่นป้ายอื่นที่เรายังไม่ได้ติดนะ แล้วก็ยังมีคนที่จะขอเข้ามาจัดทำแผ่นป้ายให้เราด้วยค่ะ เราก็เลยงง
ป้าบี: แต่ตอนนี้มีอีกประเด็น มีคนบอกว่ามีเจ้าหน้าที่มาถ่ายภาพป้ายต่างๆ แล้วบอกว่าเราไม่ได้เสียภาษีป้าย เราเลยถามกลับไปว่าป้ายเหล่านี้มันยังไม่ได้เป็นการพาณิชย์ แต่เป็นป้ายประจานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ป้ายประจานการทำงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แล้วจะมาคิดภาษีป้ายเพื่ออะไร ไม่ได้โฆษณาเพื่อจะได้กำไรจากอะไรสักอย่าง ไม่มี
ป้าฉัตร: วงเล็บคือผู้อำนวยการเขตบอกว่ากรุณาช่วยเอาลง ผู้อำนวยการเขตเคยขอว่าอยากจะให้เอาป้ายลง แต่บังเอิญว่าถ้าเราเอาป้ายลง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเรามาตลอดและเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในอดีต ประชาชนจะไม่ทราบ อันนี้คือคำยืนยันที่เกิดขึ้นจริง ต้องติดที่ฝาให้ทุกคนรับทราบ ยังมีความคิดอยู่เลยว่าเพื่อที่จะให้มันสวยงามยิ่งขึ้น มีการทำแล้วฝังติดกำแพงไปเลยดีไหม
แต่ต้องยืนยันว่าเรื่องทุบรถผมไม่เห็นด้วยนะ เพราะตอนนั้นคุณป้าใช้อารมณ์เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับเด็กๆ
ป้าบี: เราเข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ถูกต้อง แต่ว่าด้วยความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ยังไม่ได้บรรลุโสดาบัน ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เราเดือดร้อน เราเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชาย ผู้ชายก็ยังทุบรถ เผารถ เอาสีราดรถ แต่เราเป็นผู้หญิง แล้วเราทำทุกวิถีทางก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ นั่นก็คือบีบแตรเพื่อบอก แจ้งหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐก็เฉย แล้วเจ้าหน้าที่รัฐคือตำรวจ สน.ประเวศ บอกว่ายังไม่ได้รับแจ้ง แต่ทาง 191 บอกว่ามีการโทร
เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานของรัฐต้องพึงสังวรณ์ไว้ว่าคุณต้องใช้อำนาจให้ถูกต้องในอำนาจที่คุณมีอยู่ อย่าสนับสนุนในสิ่งที่ผิดกฎหมาย
เขาบอกว่าบ้านป้าแจ้ง 191 บ่อยมาก จริงไหม
ป้าบี: บ่อยมาก ก็แสดงว่ามันมีการปิดกั้นประตูบ้าน ออกไม่ได้ทุกวัน มันมีความไม่ปกติในการกระทำของตำรวจ เช่น เมื่อเกิดเหตุการณ์เอารถมาปิดกั้น กดแตรแล้วก็ไม่ยอมออก ต้องรอเป็นเวลานาน แล้วก็คาประตูกันเหมือนวันที่ 18 เสร็จแล้วก็โทรไปที่ 191 รู้ไหมว่าตำรวจประเวศเข้ามาทำอะไร เข้ามาเสร็จไม่ทำอะไรมากมาย เอาที่ล็อกล้อไปล็อกรถที่ปิดกั้นประตูบ้าน เสร็จแล้วเราต้องบีบแตร รอจนกว่าเขาไปเคลียร์กับตำรวจ เสร็จแล้วถึงมา หนักกว่าเดิม นี่คือการแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ประหลาด เราอุตส่าห์บอกให้เอารถยกมายกให้ไปอยู่ข้างๆ แต่คุณดันเอาที่ล็อกล้อมาล็อกรถ
เคยคิดจะไปจ้างรถยกมายกออกเองบ้างไหม ผมว่าดูแล้วคุณป้าน่าจะซื้อเองได้ หรือรับบริจาคก็ได้
ป้าฉัตร: ซื้อเองเลยเหรอคะ อย่างนั้นต้องขอรับบริจาคจาก กทม. เพราะ กทม. มีเงินเยอะ
10 ปีที่ผ่านมา มีอะไรที่อยากจะทำแล้วไม่ได้ทำอีกไหม หรือมีอะไรที่คับแค้นใจแล้วอยากจะพูดตรงนี้
ป้าฉัตร: เปลี่ยน กทม. ไปเลย แล้วปฏิวัติ กทม. ใหม่ทั้งทีมเลย เพราะเราเดือดร้อนมาถึง 10 ปี วันนี้คุณมาใช้เวลาสั้นๆ แล้วก็ยังไม่เคลียร์ให้จบอีกนะ ยังจะสร้างสตอรีเพิ่มเข้าไปอีก
ป้าบี: ขอขัดจังหวะนิดหนึ่ง ไม่ใช่เปลี่ยนเฉพาะ กทม. ต้องเปลี่ยนสำนักงานเขตทุกเขต เพราะประชาชนไปร้องกับ ผอ.เขต สำนักงานเขต แต่เอาเบอร์โทรศัพท์ไปให้กับคนที่มาข่มขู่เรา นี่มันคือความไม่ปกติ
ป้าฉัตร: แล้วถ้าหากว่าทาง กทม. หรือสำนักงานเขต เปลี่ยนเป็นทีมงานของพวกวัยรุ่นออกมา รับรองว่าบ้านเมืองเราจะเจริญมากเลย
ป้าบี: ใช่ค่ะ เพราะจะมีความกระตือรือร้นในการทำงาน มีความว่องไว ขณะที่เราไปร้องเรียนที่หน่วยงานต่างๆ มันช้ามาก สโลว์โมชันมาก
ในบ้านอยู่กันกี่คน มีผู้ชายไหม
ป้าบี: อยู่กันหลายคน แต่ที่ปรากฏเหตุการณ์ขึ้นก็เท่าที่เห็น แล้วก็สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือมิติที่ดีที่สุด ณ เวลานี้คือทุกสังคม ทุกหย่อมหญ้าในประเทศไทยได้รู้ข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน
ที่เป็นพี่น้องกันในบรรดาป้าๆ มีกี่คน
ป้าฉัตร: หลายคนค่ะ ต้องปิดเป็นความลับ เพราะเพื่อความปลอดภัย
แล้วไปเรียนรู้เรื่องกฎหมายมาจากไหน หรือเพราะสถานการณ์มันกดดัน เลยต้องเรียนรู้ขนาดนี้
ป้าฉัตร: ใช่เลยค่ะ มันกดดันรอบด้านเลย แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง หาทางออกไม่ได้ ปรึกษาใครก็ไม่รู้จะไปยังไง
ป้าบี: แต่ก็ต้องขอบคุณศาลปกครอง ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเป็นศาลปกติต้องจ้างทนายอย่างเดียว แต่ศาลปกครองก็ยังช่วยเหลือประชาชนตรงที่ถ้าประชาชนเดือดร้อนจากการปฏิบัติหน้าที่มิชอบของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนสามารถที่จะยื่นความเดือดร้อนให้กับศาลปกครองได้
อยากลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ไหม
ป้าฉัตร: ถ้าทำได้ ประเทศชาติคงจะเจริญยิ่งกว่านี้
ป้าบี: แน่นอนเลย เพราะเราทราบว่าสิ่งที่เราเผชิญอยู่ 10 ปีมันแน่นพอที่จะไปสมัครได้เลย
สมมติว่าสุดท้ายแล้วตลาดปิดไม่หมด หรือถ้าเขาขอประนีประนอม สุดท้ายถ้ามีการหงายการ์ดคนจน อ้างความเดือดร้อนของพ่อค้าแม่ค้า จะเจอกันครึ่งทางได้ไหม
ป้าบี: ต้องบอกก่อนว่าที่เขาจะมาเรียกร้อง หรือจะมาประนีประนอม หรือจะให้ตลาดอยู่ ต้องดูประเด็นที่สำคัญที่สุดก่อนว่าที่ดินของหมู่บ้านเสรีวิลล่าขอจัดสรรเพื่ออะไร ถ้าขอจัดสรรเพื่อการพาณิชย์ คุณมาอยู่ได้เลย เราไม่ปฏิเสธ เราสนับสนุนคุณ แต่ถ้าหมู่บ้านเสรีวิลล่าจัดสรรที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยบ้านเดี่ยว ไม่มีการพาณิชย์ ไม่มีอุตสาหกรรม แล้วทำระบบสาธารณูปโภคเพื่ออยู่อาศัย มันมีความชัดเจนว่าตลาดจะอยู่ได้ไหม อาคารพาณิชย์จะอยู่ได้ไหม
ทีนี้เมื่อมันมีความชัดเจนตรงนี้ ผู้รู้กฎหมายทั้งหลายในประเทศไทย แม้แต่กรมที่ดิน หรือเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีวุฒิภาวะ มีคุณวุฒิ วัยวุฒิ มีประสบการณ์ต่างๆ ท่านก็รู้แล้วว่าดอกเห็ดเกิดขึ้นได้ยังไง คือตลาดทั้งหมดเกือบ 10 ตลาดเกิดขึ้นในหมู่บ้านได้ยังไง เมื่อวานผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ เราก็ได้ทราบข้อเท็จจริงจากผู้อำนวยการเขตประเวศเหมือนกันว่าตลาดทั้งหมดไม่ได้รับใบอนุญาต แล้วป้าทนทุกข์ทรมานมาตั้ง 10 ปี ทำไมไม่บอกตั้งแต่ปี 2552 แล้วทำไมไม่จัดการตั้งแต่ปี 2552
คุณพูดได้ยังไงว่าคุณจะเปิดบ้านทำตลาด หรือว่าคุณจะเปลี่ยนอาชีพจากผู้อำนวยการเขตประเวศมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า
แต่ผู้อำนวยการเขตประเวศเขาเพิ่งจะขึ้นมารับหน้าที่หรือเปล่า
ป้าบี: คือไม่ว่าท่านจะมาในเวลาใด 5 เดือน 3 เดือน 1 วัน 1 สัปดาห์ ท่านรู้มาก่อนแล้ว ก่อนที่ท่านจะมาประจำตำแหน่ง ท่านต้องอ่านรายงานทุกรายงาน เพราะฉะนั้นท่านต้องรู้ว่าการที่ท่านมาทำงาน ท่านเป็นข้าราชการ ท่านย่อมรู้ ท่านไปอยู่เขตอื่น ท่านก็ต้องรู้ ท่านต้องบำรุงสุขให้กับประชาชน แต่ท่านกำลังสร้างความทุกข์ให้กับประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า
แล้ว ณ เวลานี้ การที่จะหงายการ์ดคนจน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน แต่ถ้าสิทธิของท่านไปเบียดเบียนคนอื่น ไปละเมิดคนอื่น มันคือสิทธิที่ชอบธรรมหรือไม่ มันก็ไม่ชอบธรรม พ่อค้าแม่ค้าหรือบุคคลอื่นก็ตามต้องเข้าใจในจุดนี้ก่อน การละเมิดสิทธิ ทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าไม่ต้องการให้คนมาเอาเปรียบ เห็นแก่ได้ หรือมาละเมิด แม้แต่สมมติว่าคุณไปเข้าแถวซื้อตั๋วดูหนัง ถ้าอยู่ดีๆ มีคนมาแซงหน้า นั่นคือละเมิดสิทธิเขาใช่ไหม มันไม่ถูกต้อง คุณไปซื้อของในตลาด อยู่ดีๆ เขาก็มากระแทกคุณแล้วก็ไปยืนในตำแหน่งที่คุณจะซื้อของ มันก็ไม่ใช่อีกใช่ไหม การที่ปัจจุบันนี้ที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นบนท้องถนน นั่นก็คือการละเมิดสิทธิใช่หรือไม่
ปัจจุบันนี้ก็มาละเมิดสิทธิในที่อยู่อาศัย มาคุกคามสิทธิเขา มาบุกรุกสถานที่เขาทั้งกลางวัน-กลางคืน แล้วถามคุณว่าสิ่งที่เขาได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลา 10 ปี วันนี้คุณจะมาหงายการ์ดคนจน หงายการ์ดว่าตัวเองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ไม่มีที่ทำกิน หรือเดือดร้อน ต้องหารายได้ทุกวัน แต่คุณรู้แล้วว่าใน 10 ปีนี้เขาติดป้ายที่หน้าบ้านจนเต็ม มีการฟ้องร้องเรื่องตลาด ทำไมคุณถึงไม่รู้
เราไม่ได้ฟ้องตลาด แต่เราฟ้องผู้ว่าฯ กทม. เราฟ้องผู้อำนวยการเขตประเวศ เราฟ้องสำนักงานเขตประเวศ เราฟ้องกรุงเทพมหานครที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบ ละเลยเพิกเฉยจนถึง 10 ปี แล้วมาบอกเมื่อ 2 วันที่แล้วว่าตลาดไม่ได้รับใบอนุญาต แล้วเมื่อวานผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ 10 ปีไม่เคยลงพื้นที่ แล้วบอกว่าไอ้นี่ก็ผิด ไอ้นี่ก็ผิด แต่ไอ้นี่ขอการพาณิชย์ ต้องไปขอให้ถูกภายใน 7 วัน แต่การพาณิชย์ที่ก่อสร้างก็อยู่บนพื้นที่ที่อยู่อาศัยใช่ไหม
ก็ 10 ปีที่แล้วคุณป้าไม่ทุบรถน่ะ
ป้าบี: ก็อยากจะทุบนะ แล้วมาบอกว่าป้าสร้างสถานการณ์ตอนนี้ได้ยังไง ถ้าทำก็น่าจะทำตั้งแต่ปี 2552 แล้ว
เพราะฉะนั้นในมุมของป้ามองว่ามันไม่เกี่ยว สิทธิของทุกคนเท่ากัน
ป้าบี: มันไม่เกี่ยว แล้วต้องขอบอกพ่อค้าแม่ค้าผู้ที่ถึงแม้จะได้รับผลกระทบตรงนี้ แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของป้า ไม่ใช่ความผิดของคนในหมู่บ้านเสรีวิลล่า แต่มันเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่เขต ผู้อำนวยการเขต สำนักการโยธา ที่ไปออกใบอะไรที่ตั้งอยู่บนพื้นที่จัดสรรเพื่อการอยู่อาศัย คุณมีหน้าที่ที่จะออก ถ้าเขาขอเป็นบ้านเดี่ยว คุณออกให้เขา มันถูกต้องตามกฎหมาย
แล้วได้โปรดกรุณาอย่าแยกชนชั้น คนจนคนรวยมันไม่เกี่ยว แต่มันแยกความถูกความผิดที่ชัดเจนต่างหาก
ป้าฉัตร: ความรับผิดชอบอันนี้ สาเหตุของเรื่องนี้มันมาจากกรุงเทพมหานครแล้วก็ผู้อำนวยการเขต เพราะคุณเป็นคนจัดหาสถานที่ให้เขา ไม่ใช่ปล่อยให้เขาทำผิดสถานที่แล้วคุณจะเอาเขามาเรียกร้องสิทธิ อ้างความเป็นคนจนบนพื้นที่อยู่อาศัย มันไม่ถูก
ในการเรียกพ่อค้าแม่ค้าไปประชุมแล้วมีการบอกว่าพ่อค้าแม่ค้าจะมาทำอะไรก็ตาม อยากจะให้บอกนิดหนึ่งว่าทุกคนเป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ จริยธรรม คุณธรรม เมตตาธรรม ถูกผิดต้องรู้อยู่ในใจ ไม่จำเป็นต้องให้กฎหมายไปชี้ คุณต้องรู้อยู่แล้วว่าคุณทำถูกหรือทำผิด ขาวดำต้องเห็นชัดเจน ถ้าคุณเห็นดำเป็นขาว เดือดร้อนทั้งประเทศ
ตอนนี้ถึงต้องปฏิวัติประเทศ ปฏิวัติ กทม. ปฏิวัติทุกสิ่งทุกอย่างให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักนำสิ่งดีๆ เข้ามาสู่ประเทศใช่ไหม ไม่ใช่เอาคนคร่ำครึ ยังอยู่ที่เดิม ใช้ระบบเดิม อืดอาดยืดยาด มันคือข้อเท็จจริง ถ้า กทม. ย้ายตลาดออกไป หาสถานที่ให้เขาถูกต้องตามพื้นที่ที่เป็นพาณิชย์ เขาก็ไปอยู่อย่างถูกต้อง เขาก็ทำมาค้าขายอย่างสบายใจ แล้วก็อยู่อย่างสงบสุข เขาก็มีรายได้ที่ดี เขตไม่ต้องไปดำเนินการกับเขา ไม่ต้องไปแจ้งความ เมื่อคุณอยู่ในที่การพาณิชย์ เราเป็นประชาชนคนธรรมดา เราก็ไปอุดหนุนคุณ
หมายความว่าถ้าตลาดไปอยู่ไกลแล้วไม่ผิดกฎระเบียบแบบนี้ คุณจะไปเข้าตลาดแน่นอน
ป้าบี-ป้าฉัตร: ใช่ เราก็ต้องไปซื้อ ไปอุดหนุน
ถ้าอย่างนั้นถามหน่อยว่าทุกวันนี้คนในหมู่บ้านเสรีวิลล่าใช้บริการตลาดเหล่านี้บ้างไหม
ป้าฉัตร: ถ้าคนที่เขาได้รับผลกระทบจะไม่ใช้เลย
ป้าบี: แต่ว่าเขาไปใช้ข้างนอก เพราะว่าหนึ่งคือเขามีที่จอดรถที่ถูกต้อง แล้วเขาก็มีอาหารที่มีคุณภาพดีพอสมควร มีตลาดที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง แล้วถามว่าซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ตรงหน้าบ้านคืออะไร คุณภาพเหมือนกันไหม เพราะฉะนั้นถ้าคนที่อยู่ในหมู่บ้านเขาก็จะไปที่อื่น นี่คือข้อเท็จจริง
ตอนนี้เรื่องมันค่อนข้างใหญ่ แล้วคุณป้าก็อยู่ท่ามกลางตลาดที่กำลังจะถูกปิด เพราะฉะนั้นต้องมีคนไม่แฮปปี้ ไม่พอใจคุณป้าเพิ่มขึ้น ไม่กดดันเหรอที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้
ป้าบี: ที่เมื่อกี้อธิบายให้ฟังว่าทุกคนเป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ การที่คุณจะกระทำการใดกับบุคคลอื่นที่เรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมของเขา คุณต้องคิดให้มาก ถ้าคุณตัดสินใจแค่ชั่ววูบเดียวของชีวิตคุณ ถ้าจับได้ คุณก็อยู่ในคุก ถ้าคุณทำเขาถึงกับอันตรายต่อชีวิต ชีวิตลูกหลานคุณก็จะไม่สงบ กงเกวียนกำเกวียนมันมี ก็ขอให้จะทำอะไรก็ตาม ต้องดูว่าที่เขาเรียกร้องนั้นถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่ว่าคุณทำในที่พาณิชย์ แล้วเราไปเย้วๆ ให้คุณออก มันไม่ใช่ เขากำลังรักษาสิทธิของเขาอย่างถูกต้อง เกือบ 10 ปีน่ะ
วันนี้ส่วนหนึ่งต้องกลับใจ ถ้าคุณไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ ไม่ไหว้พระ ไม่เข้าวัด ถ้าคุณทำอย่างนั้นคุณก็เถื่อน อีกอย่างหนึ่งคือเราต้องรู้ว่าวัยวุฒิและคุณวุฒิของทุกคนไม่เสมอกัน แต่ไม่ว่าคุณวุฒิจะเป็นลักษณะไหนก็ตาม แต่จิตใต้สำนึกต้องมี ไม่ใช่คิดว่าฉันเดือดร้อน ฉันขายของไม่ได้ ฉันจะจัดการเลย อย่างนั้นมันไม่ได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแป มีกฎหมาย ต้องเคารพกฎหมาย บ้านเมืองถึงจะอยู่อย่างสงบ
เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานของรัฐต้องพึงสังวรณ์ไว้ว่าคุณต้องใช้อำนาจให้ถูกต้องในอำนาจที่คุณมีอยู่ อย่าสนับสนุนในสิ่งที่ผิดกฎหมาย อีกอย่างคืออยากจะบอกกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้รีบมาแก้ไขก่อนเรื่องมันจะบานปลายมากไปกว่านี้ เพราะตอนนี้กำลังมีการบิดเบือน สร้างสถานการณ์ มีคำว่าผู้เสียประโยชน์ แล้วเมื่อคุณได้ประโยชน์ไปแล้ว ถามว่าคุณมีโอกาสจะได้ใช้เงินไปตลอดชีวิตของคุณไหม คุณตายก็คือกล่องสี่เหลี่ยมใช่ไหม แล้วคุณเอาอะไรไปได้บ้าง แม้แต่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย หรือคุณจะใส่ฟันปลอมเป็นทอง คุณก็เอาไปไม่ได้
เท่าที่ฟังคือคุณป้าไม่กลัว
ป้าบี: ก็ได้กำลังใจจากคนที่เขารู้ข้อเท็จจริง อันนี้คือสิ่งที่เราสบายใจมากๆ คือทุกคนทั่วประเทศได้รับรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหมู่บ้าน แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา สื่อต้องช่วยติดตาม ช่วยกระทุ้ง แล้วถ้าผู้มีอำนาจที่อยู่สูงสุด ถ้าครอบครัวนี้ได้รับอันตราย ท่านต้องจัดการทันที
ป้าฉัตร: แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณทุกสื่อและประชาชนทุกคน ขอให้ช่วยเป็น security ให้เรา (หัวเราะ)
ทุกวันนี้มีกล้องวงจรปิดไหม
ป้าบี: มีค่ะ แต่ไม่บอกว่ามีกี่ตัว เป็นความลับ
แต่ไม่ได้จ้าง รปภ.
ป้าฉัตร: แต่เรามี รปภ. ที่เรามั่นใจก็คืออเมริกันพิตบูล
ป้าบี: อยากจะให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้แล้วยังมีการดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง หมู่บ้านอื่นๆ ก็จะได้รับผลกระทบ การละเมิดสิทธิในสังคมก็ยังมีอยู่ มันจะต้องมีการชกต่อยกัน เอาไม้ทุบกัน เอาปืนไล่ยิงกันอย่างที่เห็นในข่าวเสมอ ทุกคนต้องรักษาสิทธิของตัวเอง แล้วอย่าไปละเมิดสิทธิเขา ใจเขาใจเรา ต้องนึกให้มาก ไม่ใช่ตัวเราเท่านั้น ลูกหลานเรา ปู่ย่าตายายยังต้องมีชีวิตอยู่อีกหลายๆ ปีเพื่อดูความสวยงามของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
ป้าฉัตร: จากการปฏิวัติ กทม.
แสดงว่าคุณป้ายังเชื่อมั่นอยู่ว่าความถูกต้องจะปรากฏ
ป้าบี: เราเชื่อมั่นในศาล
ป้าฉัตร: เราไม่เชื่อมั่นในผู้ว่าฯ กทม. นะ แต่จากการที่เรามาเรียกร้องอย่างนี้ เราขอให้มีการปฏิวัติการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ
ป้าบี: ถ้าผู้ว่าฯ เคลียร์ปัญหานี้ให้ชัดเจนว่าที่อยู่อาศัยคือที่อยู่อาศัย ตลาดคือตลาด ท่านจะได้คะแนนเสียงมากยิ่งขึ้น ในไม่กี่วัน ให้ 5 ตลาดออกไป กลับคืนสู่ความเป็นหมู่บ้านเสรีวิลล่า ก็ถ้าท่านโชว์ผลงานได้เต็มที่ จาก 10 ปีที่เราทนทุกข์ทรมาน ท่านสามารถจัดการได้ภายใน 7 วัน
ขอประกาศให้ทุกคนทราบว่าทุกหมู่บ้านขอจัดสรรเพื่ออยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ถ้าเขามีความชัดเจนว่าบ้านเดี่ยวก็ไม่ควรทำอะไรที่เกินเลยไปกว่านั้น ถ้าเป็นทาวน์เฮาส์ก็ไม่ควรที่จะเกินเลยไปกว่านั้น ถ้าเขาขอให้ถูกต้อง อย่าทำร้ายประชาชน ประชาชนเขาเดือดร้อนจากการใช้ชีวิตประจำวันแล้วยังต้องมาเดือดร้อนกับที่อยู่อาศัยเขา มันไม่ได้นะคะ
คิดอย่างไรที่ผู้อำนวยการเขตให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าเป็นบ้านเขา เขาจะเปิดบ้านขายของไปด้วย หรือขายที่ดินไปเลย
ป้าฉัตร: เขาคงไม่มีหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเขต เขาคงอยากจะเป็นคนขายของ
ป้าบี: เพราะในพื้นที่เขตประเวศมีผู้อำนวยการหลายคนที่เข้ามารับหน้าที่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ที่มีการร้องเรียนเรื่องตลาด ก็มีผู้อำนวยการเขตประเวศที่ชื่อนายสมชัย ฉัตรสกุลเพ็ญ เราร้องเรียนเรื่องตลาดด้านซ้ายและขวา สิ่งสำคัญที่เขาพูดตอนเขามาวิ่งออกกำลังกาย เขาเป็นคนแรกที่บอกว่าถ้าเป็นบ้านผม ผมก็รับไม่ได้ แล้วถามว่าประชาชนจะรับได้ไหม
ปัจจุบันประชาชนเดือดร้อนมาเกือบ 10 ปี มาเจอผู้อำนวยการเขตประเวศที่มารับหน้าที่ใหม่ในพื้นที่นี้ แล้วบอกว่าถ้าเป็นตัวเขา ไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง แต่คำพูดนี้ก็ไม่ควรจะออกมา เพราะท่านยังมีตำแหน่งครอบอยู่บนศีรษะ ไม่ว่าท่านจะอยู่บ้านหรือถอดตำแหน่งออก ท่านก็ยังเป็นผู้อำนวยการเขตที่คนจำได้อยู่ คุณพูดได้ยังไงว่าคุณจะเปิดบ้านทำตลาด หรือว่าคุณจะเปลี่ยนอาชีพจากผู้อำนวยการเขตประเวศมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า แต่เมื่อคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าแล้ว คุณก็ต้องอยู่ในที่ที่ถูกต้องอยู่ดี
ส่วนที่บอกว่าถ้าเป็นเขา เขาจะขายบ้านทิ้ง ถามว่าท่านจบนิติศาสตร์หรือเปล่า ถ้าท่านเรียนหนังสืออย่างนี้ ภาษานี้ไม่ควรออกมา ประชาชนเขาซื้อบ้านอย่างถูกต้อง เขาได้รับโฉนดไปปลูกบ้าน เขาย่อมได้รับสิทธิของเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว วันนี้เขาจะขายบ้านเพื่ออะไรกัน ส่วนตลาดที่มาก่อสร้าง ทำลายความสงบสุขของเขา เขาเหล่านั้นต้องย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นเขาจะแบ่งโซนนิ่งเพื่อการพาณิชย์และเพื่ออยู่อาศัยไปทำไม แต่วันนี้ท่านมาพูดแบบนี้ ทำลายประชาชนมากๆ เลย แล้วอีกอย่างคือท่านมีคุณวุฒิ วัยวุฒิ วุฒิภาวะที่จะต้องรับผิดชอบกับสิ่งเหล่านี้
10 ปีที่ผ่านมาเคยนอนร้องไห้ไหม
ป้าฉัตร: เกือบจะร้องไห้ แต่ไม่ร้องไห้ เพราะเราเป็นผู้ที่ทำการฟ้อง ถ้าเราอ่อนแอ ทุกคนก็หมดกำลังใจ
ป้าบี: ถามว่าคนในบ้านร้องไห้ไหม… ไม่มีน้ำตาออกจากครอบครัวนี้ เพราะว่าสิ่งที่เราต่อสู้นี้ ต่อสู้อยู่บนตัวบทกฎหมาย ต่อสู้บนความถูกต้อง แล้วเราเป็นคนที่ถูกต้องอยู่แล้ว ทำไมเราต้องเสียน้ำตากับสิ่งเหล่านี้ เราฟ้องต่อศาล เรียกร้องความยุติธรรม เราร้องต่อทุกหน่วยงานของรัฐ ร้องหัวหน้า คสช. ร้องนายกรัฐมนตรี ร้องกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ผู้ว่าฯ กทม. ผู้อำนวยการเขตประเวศ สำนักงานเขตประเวศ สน.ประเวศ แล้วก็ไปรัฐสภาถึง 2 ครั้ง นี่คือสิ่งที่เราทำ น้ำตามันออกมาไม่ได้ ถ้าออกมาวันใด เรารู้สึกว่าเราไม่สามารถยืนอยู่บนแผ่นดินไทยได้แล้ว
10 ปีที่ผ่านมาก่อนจะเกิดเรื่องทุบรถ เคยมีความพยายามจะร้องเรียนกับสื่อหรือออกรายการแบบนี้บ้างไหม
ป้าฉัตร: ป้าเป็นคนไปส่งเรื่องกับหนังสือพิมพ์หลายๆ ราย ตั้งแต่ ผู้จัดการ, คม ชัด ลึก เยอะมาก แต่ไม่มีใครลง แต่วันนี้ก็ได้อ่านบางคอลัมน์ที่เขียนออกมา แทบทุกฉบับเรายื่นเรื่องไปหมด
คิดว่าตอนนี้สิ่งที่คุณป้าทำมันสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทุกวงการ แสดงให้เห็นว่าเรื่องบางเรื่องมันคาราคาซังมานานและถึงเวลาที่ต้องแก้ไขแล้ว อยากบอกอะไรกับคนที่ถูกเอาเปรียบหรือถูกรุกล้ำสิทธิบ้างไหม
ป้าฉัตร: ก่อนเลือกตั้งมีการปฏิวัติ กทม. ก็จะดีนะคะ
ป้าบี: สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่สะท้อนให้เห็นถึงการที่เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานของรัฐ เพิกเฉยต่อการกระทำที่เกิดขึ้น แล้วก็มีการกระทำที่ถึงขั้นทำลายความสงบสุข ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ถูกไม่ควร วันนี้ทุกหมู่บ้าน ประชาชนทุกครัวเรือน จะได้ทราบว่าสิทธิอันชอบธรรมของท่านอยู่ตรงไหน แล้วใช้สิทธิของท่านให้ถูกต้อง ลุกขึ้นมาถ้ามีใครละเมิด อย่าได้นอนหลับทับสิทธิ์ ลุกขึ้นมาแม้ท่านจะเป็นคนเดียว สองคน อะไรก็ตาม สังคมตอนนี้รับรู้แล้วว่าการละเมิดสิทธิ คุกคามสิทธิ บุกรุกสิทธิ ไม่ว่าจะของคนใดหรือในสถานที่ใดก็ตาม มันคือความไม่ถูกต้อง แม้แต่เรื่องเล็กนิดเดียว เหยียบเท้า ลัดคิว ช่วยแจ้งนิดหนึ่ง สะกิดกันนิดหนึ่ง เพื่อไม่ให้เขาละเมิดสิทธิคุณ
รู้สึกอย่างไรที่คนมาถ่ายเซลฟีกันหน้าบ้าน รำคาญไหม
ป้าฉัตร: รู้สึกว่าอาจจะต้องเปิดบ้านขายของเหมือนผู้อำนวยการเขตไหม
ป้าบี: แต่วันนี้ก็ยินดีที่ทุกคนเข้าไปเซลฟี เพราะอย่างน้อยได้เห็นเรื่องราวต่างๆ บนแผ่นป้าย ถึงจะถ่ายใกล้หรือถ่ายไกลก็มีเนื้อหาอยู่ อ่านให้ด้วย ท่านจะได้รู้ว่าอะไรคืออะไร
ป้าฉัตร: ถ้าไม่ได้อ่านถือว่ามาไม่ถึง
ป้าบี: แล้วอีกอย่างหนึ่ง เมื่อท่านถ่ายแล้วก็ถือว่าท่านเกิดในยุคที่มีการปฏิวัติ กทม. ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการปฏิวัติ กทม. เช่นเดียวกัน
สมมติว่าสุดท้ายต้องเลือกปิดแล้วเหลืออยู่ 2 ตลาด รับได้ไหม
ป้าฉัตร: มันไม่ได้โดยข้อกฎหมาย มันไม่ได้เลย เพราะเขาไม่มีการพาณิชย์ ไม่มีการอุตสาหกรรม แล้วก็เพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น
ป้าบี: ในกฎหมายมันมีความชัดเจน แล้วพอดีทางทนายก็เอาคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดมาให้ดูว่ามันทำไม่ได้ ใครซื้อที่ดิน หรือใครจัดสรรที่ดิน ต้องเป็นไปตามแผนผังของที่ดิน เมื่อในแผนผังของที่ดินไม่มีตลาด คุณจะไปงอกตลาดได้ยังไง ต้องบอกพ่อค้าแม่ค้า ขอให้เขาเข้าใจตรงนี้ อย่าได้แสดงว่าตัวเองเดือดร้อนจากรายได้ แต่ขอให้เข้าใจด้วยเหตุและผลด้วย
อยู่บ้านหลังนี้มากี่ปีแล้ว
ป้าบี: เกือบ 20 ปีแล้ว ต้องยอมรับว่าตอนมาซื้อมันร่มเย็นเป็นสุขมาก มีความร่มรื่น เป็นส่วนตัวมากๆ แล้วถนนหนทางสะอาด เป็นคอนกรีต แต่ปัจจุบันไปลาดยางมะตอยแล้วตีเส้นจราจร ทำให้ตลาดจอดรถขวางไปมา ต้องขุดยางมะตอยออกเพื่อคืนสภาพของการอยู่อาศัย สมัยก่อนมันมีนกสารพัด มีกระรอก ถ้าจะเปรียบเทียบก็ใกล้เคียงกับสวนหลวง ร.9 เลย แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป แล้วมลพิษเยอะมาก เวลาจะเดินออกจากบ้านต้องคาดหน้ากาก อยู่ในบ้านก็ยังต้องคาด ประตู-หน้าต่างต้องปิด เปิดรับลมไม่ได้เลย
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณป้ายังจะทุบรถคันนั้นอยู่ไหม
ป้าบี: มันไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปทำอย่างนั้น
ป้าฉัตร: มันไม่ใช่วิสัยเราที่จะทำอย่างนั้น เรายังรู้สึกว่าวันนั้นมันทำลงไปได้ยังไง เพราะมันไม่ใช่บทบู๊ของเราเลย
ป้าบี: มันคือสุดวิสัยจริงๆ คือเราใช้ทุกวิถีทางแล้ว แล้วมันไม่มีอะไรมาช่วยเราได้เลย เราเป็นป้าแก่ๆ ดันรถก็ดันไม่ได้
ในกรณีของคดีทุบรถ รู้สึกหนักใจไหม
ป้าบี: จริงๆ แล้วเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในหมู่บ้าน ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนั้น แล้วเราอยู่ในการคุ้มครองของศาลปกครอง ก็หนีไม่พ้นกรุงเทพมหานครที่จะต้องรับผิดชอบ เพราะศาลมีคำสั่งให้ผู้ว่าฯ กทม. โดยผู้อำนวยการเขตประเวศ ใช้ พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ. หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้ผู้ใดสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง 4 บนพื้นที่เป็นมูลเหตุคดีพิพาทที่เกิดจากการจัดตั้งตลาด ถามว่าความเสียหายนี้ต้องไปเก็บกับใคร
หนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุปนิสัยของป้า แต่มันสุดวิสัยแล้วที่จะออกจากบ้าน เมื่อเรียกบุคคลใดก็ไม่มีใครมาช่วย สิ่งเดียวที่ป้าต้องช่วยในเบื้องต้นก็คือสิ่งที่ทำไป คือกดแตรครึ่งชั่วโมง โทรไปที่หน่วยงานของรัฐ 191 และ 155 คือกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องดูแลผู้ฟ้องคดีตามคำสั่งของศาล แต่เขาไม่ได้ทำตาม เมื่อไม่ได้ทำตาม ป้าจะต้องทำอย่างไร แจ้งทุกอย่างแล้ว คนก็ยืนดูเต็มไปหมด ดังนั้นมันจึงเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะต้องทำอย่างนี้ เพราะไม่ทราบว่าจะต้องทำยังไง
จะไปรับทราบข้อกล่าวหาไหม
ป้าบี: ก็ต้องไปพร้อมกับทนาย แต่สังคมต้องได้รับทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วคนที่จะรับผิดชอบคือใคร เรื่องนี้ก็ต้องสู้ แต่ต้องบอกตำรวจที่กำลังจะทำสำนวนให้ดูข้อเท็จจริงด้วย
เคยมีคนของตลาดเข้ามาเจรจาบ้างไหม
ป้าฉัตร: ไม่มีค่ะ
ทั้งหมดทั้งมวลคิดว่าเป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตไหม เพราะต่อสู้มา 10 ปีตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์จนกระทั่งมาถึงวันนี้
ป้าบี: ใช่ค่ะ ปกติมีโลกส่วนตัวสูง คือไม่ได้จะเปิดเผยตัวเองมากนัก ก็ใช้ชีวิตปกติ สมถะ แต่พอเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ถ้าไม่เอาข้อเท็จจริงมาออกสื่อ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้อยากจะออกสื่อ ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดให้สังคมได้รับรู้
อยากฝากอะไรทิ้งท้ายไหม
ป้าฉัตร: ก่อนอื่นคือกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าฯ กทม. ต้องรีบปฏิวัติการกระทำของท่าน ถ้าได้รับการปฏิวัติ มันจะดีมากสำหรับประชาชนทั้งประเทศ ขอให้รีบเข้ามาดูแลและเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาถึง 10 ปี แล้วก็จัดหาสถานที่ให้กับตลาดเหล่านั้น เราจะเดินเข้าไปเป็นผู้ซื้อคนแรกเลยในที่ที่คุณจัดให้เขาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ป้าบี: ปฏิวัติคนด้วย เราไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่เราพูดในฐานะคนที่เดือดร้อนว่า ระบบบางอย่างต้องปฏิวัติ หรือมีการพัฒนามากยิ่งขึ้น เพราะโลกมันไปกว้าง ไปไกล ถ้าเรายังคร่ำครึกับระบบเก่าๆ โลกเราก็ไม่ทันเขา ทั้งๆ ที่เรามีประชาชนที่เก่งๆ เยอะ แล้วเดี๋ยวนี้คนสมัยใหม่ก็มีคุณภาพ