อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกดีขึ้น ฟื้นจากการขาดแคลน แต่ภาพรวมยังน่าเป็นห่วง

Micron ผู้ผลิตชิปรายใหญ่มองว่าอุตสาหกรรมชิปทั่วโลกดีขึ้น เหตุฟื้นตัวจากปัญหาขาดแคลน แต่ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากความต้องการชิปบางประเภทยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ความสามารถในการผลิตและปริมาณวัตถุดิบยังไม่สามารถปรับเพิ่มได้ทันตามความต้องการ

Sanjay Mehrotra ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Micron บริษัทผลิตชิปและหน่วยความจำรายใหญ่ในสหรัฐฯ กล่าวว่า อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกกำลังฟื้นตัวจากภาวะขาดแคลน หลังจากที่อุตสาหกรรมทั่วโลกต้องเร่งหามาตรการมารองรับโดยการลดการใช้จ่ายด้านทุนและผลผลิต จึงมองว่าภาวะขาดแคลนดังกล่าวใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง โดยฟื้นจากภาวะขาดแคลนมาเป็นภาวะตกต่ำ เพราะความต้องการหน่วยความจำยังคงเพิ่มขึ้นในระยะยาว ขณะที่ความสามารถในการผลิตในปัจจุบัน รวมถึงปริมาณวัตถุดิบยังไม่สามารถปรับเพิ่มได้ทันตามความต้องการ

Mehrotra ชี้ว่า ตัวขับเคลื่อนหลักของการชะลอตัวของอุตสาหกรรมหน่วยความจำในขณะนี้คือลูกค้ากำลังปรับสินค้าคงคลังไปสู่ระดับปกติมากขึ้น

ทั้งนี้ Mehrotra ระบุว่า โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เพื่อให้สินค้าคงคลังของลูกค้าเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมเสริมว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคจะส่งผลต่อจังหวะที่จะเกิดขึ้นด้วย ถือเป็นการพลิกกับของสถานการณ์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาของการระบาดใหญ่ของโควิด เมื่อลูกค้าสร้างสินค้าคงคลังในระดับสูงเพื่อตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลนซัพพลายเชนของเซมิคอนดักเตอร์ล่าสุด ทำให้แนวโน้มความต้องการเซมิคอนดักเตอร์จะปรับตัวลดลงในระยะเวลาอันใกล้ แต่ในระยะยาวความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นจะยังทำให้อุตสาหกรรมชิปอยู่ในสภาวะตกต่ำ แม้ไม่ถึงขนาดขาดแคลนก็ตาม

Micron ถือเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่รายแรกที่ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับความต้องการชิปที่ลดลงสำหรับ PC และสมาร์ทโฟน โดยบริษัทจะลดการผลิตชิปลงประมาณ 20% และระงับการจ้างงานเพิ่มเติมด้วย ขณะที่ผู้ผลิตชิปอีกรายอย่าง TSMC ของไต้หวัน ได้ลดงบประมาณการลงทุนประจำปีสำหรับปีนี้ลงอย่างน้อย 10% ส่วน SK Hynix ของเกาหลีใต้ ซึ่งมีลูกค้ารวมถึง Apple ได้ลดการลงทุนสำหรับปีหน้าลงครึ่งหนึ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง: