หลัง Netflix เปิดตัวไลน์อัพคอนเทนต์ไทยทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ 6 เรื่อง ภายใต้คอนเซปต์ ‘ทีไทย ทีมันส์’ ในวันหวยออก 16 พฤศจิกายน ก็ได้ฤกษ์สตรีม ปฏิบัติการกู้หวย ภาพยนตร์คอเมดี้เรี่องแรกที่ช่วยฮีลใจคนที่ถูกหวยรับประทาน
จะว่าไป ปฏิบัติการกู้หวย ค่อนข้างแตกต่างจากภาพยนตร์และซีรีส์หลายๆ เรื่องของ Netflix แต่อย่างที่บทสัมภาษณ์ของ สิน-ยงยุทธ ทองกองทุน ผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ประจำประเทศไทยของ Netflix ที่ต้องการสะท้อนภาพความหลากหลายของคอนเทนต์ Netflix ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะหันมาทำภาพยนตร์ตลก ดูง่ายๆ บ้าง หลังจากที่เคยชิมลางคอนเทนต์จริงจัง ซีเรียส แบบเวิร์กบ้าง ไม่เวิร์กบ้างมาแล้ว อีกทั้งยังโดนใจกลุ่มแมสที่ Netflix อาจยังไปไม่ถึง
เมื่อมาดูในแง่องค์ประกอบก็ยังคงมีกลิ่นอายความเป็น Netflix ในการหยิบประเด็นเรื่องลอตเตอรี่และความเหลื่อมล้ำที่มีอยู่ในทุกประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย แต่ก็คิดว่าน่าจะทำเสิร์ฟคนไทยเป็นหลัก เพราะใส่มุกตลกไทยๆ แบบจัดเต็ม ถ้าหากภาพยนตร์เรื่องนี้จะส่งออกไป แค่ขายได้ในระดับภูมิภาคก็เรียกว่าหรูแล้ว
ปฏิบัติการกู้หวย เล่าเรื่องภารกิจขโมยหวยจากเจ้าพ่อ โดย 5 ตัวแทนชนชั้นล่างผู้มีฝัน แต่ต้องติดอยู่กับกับดักความจน ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่ เต (สกาย-วงศ์รวี นทีธร) ลูกชายของ ต้อย (ปาน-ธนพร แวกประยูร) แม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่โดนแก๊งเงินกู้ยึดแผงหวยไป และในแผงนั้นดันมีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 อยู่ 5 ใบ ทำให้ลูกค้าเจ้าของตัวจริงต้องมาร่วมภารกิจขโมยหวยกับเขา ประกอบด้วย เหวิ่น (แจ๊ส ชวนชื่น) ตัวประกอบที่อดทนผู้ฝันจะมีบทพูดในภาพยนตร์มากกว่า 4 บรรทัด, คุ้ง (สมจิตร จงจอหอ) อดีตนักมวยที่ผันตัวเองมาขายเม็ดฟู่ทะลวงท่อ, โซ่ (แพท-ณปภา ตันตระกูล) พริตตี้ผู้ขายได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือดำน้ำ และ บีท (มินนี่-ภัณฑิรา พิพิธยากร) ลูกสาวช่างทำกุญแจที่พ่อประสบอุบัติเหตุเพราะฝีมือคนรวย กลายเป็นความวายป่วง ฮาน้ำตาเล็ด
ปฏิบัติการกู้หวย เป็นผลงานการกำกับของ พฤกษ์ เอมะรุจิ ที่ฝากผลงานในภาพยนตร์คอเมดี้หลายๆ เรื่องทั้ง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก, อีเรียมซิ่ง และ บัวผันฟันยับ ฯลฯ ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งสไตล์เดิม โดยใส่มุกตลกไทยๆ แบบนาทีต่อนาที มีทั้งคำหยาบคาย ตลกเจ็บตัว และการแสดงแบบการ์ตูน ให้คนดูได้ฮาขี้แตกขี้แตน (และแน่นอนว่ามีอุจจาระจริงๆ อยู่ในนั้นด้วย!) เรียกว่าโดยรวมแล้วแทบไม่มีอะไรใหม่ แต่ก็ให้ความบันเทิงสำหรับคนที่ชอบมุกตลกแนวนี้
ส่วนสิ่งที่โดดเด่นคือการนำประเด็นในสังคมไทยมาสอดใส่มุกตลกได้อย่างกลมกล่อม โดยเฉพาะในช่วงแรกที่จัดหนักจัดเต็ม ใส่แทบทุกประเด็นไปพร้อมๆ กับการปูพื้นฐานตัวละคร ทั้งการหนีความจนมากมาสู่ความจนธรรมดาในเมืองใหญ่ ขณะที่คุณภาพชีวิตก็ย้อนแย้งกับคำโฆษณา หรือการที่ตำรวจเป็นที่พึ่งไม่ได้ในหลายๆ มุม รวมไปถึงเรื่องบิวตี้พริวิเลจ หรือแม้กระทั่งการทำงานของสื่อมวลชนไทยในปัจจุบัน
จนกระทั่งถึงกลางเรื่องภาพยนตร์ก็ยังขยันใส่มุกฮา และเพราะการปล่อยมุขแบบถี่ยิบแบบนี้จึงมีทั้งที่ฮาและ 5 บาท 10 บาท รวมอยู่ในนั้น เช่น มุขร้องเพลงค่าน้ำนม ที่ผู้เขียนคิดว่ามาแบบยัดเยียด หรือการหยิบเอาเรื่องมะเร็งเต้านมมาเล่น…ส่วนนี้ก็ดูจะเกินเลยไปหน่อย จะมีฮาก็คือการล้อเลียนเกี่ยวกับความเชื่อและมุกล้อการเมืองที่ทำออกมาได้ดี แต่ก็อย่างว่าว่าเรื่องตลกเป็นปัจเจก
นอกจากการใส่ความฮาแบบไม่ให้หยุดหายใจ ภาพยนตร์ก็พยายามใส่ประเด็นดราม่าเรื่องแม่ลูกและอยุติธรรมในสังคม เพื่อไม่ให้ดูไร้สาระเกินไป แต่ความที่แค่แวะผ่านไปเพียงผิวมาตลอดทั้งเรื่อง จนมาถึงตอนท้ายเมื่อกลับไปขยี้ประเด็นเดิมด้วยคำสวยๆ ซึ้งๆ จึงเป็นความขาดๆ เกินๆ ไม่ลงตัว เหมือนผู้กำกับขับพาไปถึงแฮปปี้แลนด์แล้วเลี้ยวรถกลับไปซึมซับปรัชญาชีวิตที่พุทธมณทล และในท้ายที่สุดบทสรุปก็ยังอยู่ในวังวนเดิมๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปูพื้นฐานเรื่องความเหลื่อมล้ำมาอย่างแน่น
อย่างไรก็ตาม อีกสิ่งที่ต้องชมคือเหล่านักแสดงระดับดรีมทีมที่ทำหน้าที่ออกมาได้ดี โดยเฉพาะเดอะแบก ผู้แบกทุกมุกยิงทุกเม็ดอย่าง แจ๊ส ชวนชื่น และที่เซอร์ไพรส์มากๆ คือ ปาน ธนพร ที่สวมบทได้อย่างเนียน ทั้งความเป็นแม่และการเป็นแม่ค้าลอตเตอรี่
โดยภาพรวม ปฏิบัติการกู้หวย ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ถึงกับดี และทำหน้าที่ให้ความบันเทิงได้ตลอด 1.45 ชั่วโมง และบางช่วงของภาพยนตร์ก็ทำให้เข้าใจได้ว่า คนไทยเก่งมากในการหาเรื่องฮาจากชะตากรรมของตัวเอง
รับชมตัวอย่างได้ที่