วันนี้ (2 พฤศจิกายน) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร และผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุราก้าวหน้า พร้อมด้วย ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล รับหนังสือจาก 3 องค์กรที่ร่วมสนับสนุน พ.ร.บ. ดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มประชาชนเบียร์, สมาคมคราฟท์เบียร์, สมาคมสุราชุมชนไทย โดยพิธากล่าวว่า ความแตกต่างของ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า กับกฎกระทรวง คือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เน้นการปลดล็อก ลดการเอาเปรียบของผู้ผลิตเจ้าใหญ่ แต่กฎกระทรวงกลับเป็นการเปลี่ยนล็อกหนึ่งมาไว้ล็อกหนึ่ง ซึ่งประกาศก่อนที่ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จะเข้าสภาในวาระ 2 เพียงหนึ่งวันเท่านั้น คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากเป็นเรื่องการเมืองที่ต้องการคว่ำร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า นอกจากนี้พิธาได้ระบุว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าภาคประชาชน ได้ศึกษากันมานานกว่า 6 ปี ขณะที่กฎกระทรวงของราชการอาจจะตามไม่ทันศักยภาพของผู้ประกอบการ อีกทั้งเรื่องสุราสี ที่ถูกเขียนไว้ว่าต้องผลิต 30,000 ลิตร อย่างไรก็ตามประชาชนไม่สามารถผลิตได้แน่นอน ตอกย้ำชัดเจนว่าเป็นการเอื้อนายทุน หากปลดล็อกเงื่อนไขนี้ได้ถึงจะเรียกว่าปลดล็อกที่แท้จริง
พิธายังย้ำอีกว่าอุตสาหกรรมสุราจะสามารถผลักดันซอฟต์พาวเวอร์และการท่องเที่ยวของไทย
วันนี้ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลยืนยันจะทำหน้าที่ผลักดัน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้ถึงที่สุด และหวังว่าตัวแทนของประชาชนพรรคอื่นๆ จะโหวตเพื่อประโยชน์ของประชาชนเช่นกัน พิธากล่าว
ด้านสมาคมคราฟท์เบียร์ กล่าวว่า อยากจะเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ รับรองให้ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ด้วย “ผมจำได้ที่ผ่านวาระแรกแล้วทุกคนในสภาสนับสนุนกัน หวังว่าจะผ่านวาระ 2 วาระ 3 ได้ ถ้าสามารถผ่านไปได้ จะสามารถยกระดับวงการนี้ได้ด้วย เพื่อผลประโยชน์ อย่างไรก็ขอให้โหวตเพื่อร่างนี้ด้วยครับ” และตัวแทนจากประชาชนเบียร์ก็ได้กล่าวว่า หากแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ด้วยการใช้เสียงประชาชนเป็นที่ตั้งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด
นอกจากนี้เท่าพิภพยังได้กล่าวเสริมว่า “ตั้งแต่วันที่ตนโดนจับ ก็ต้องปณิธานแน่วแน่ว่าจะแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้ หากไม่สำเร็จก็ต้องทำต่อไปอยู่ เพราะความฝันเรายังอยู่ และเป้าหมายชัดเจน ตอนนี้ต้องดูสถานการณ์เป็นนาที เพราะอย่างเมื่อวานก็มาเหนือเมฆออกกฎกระทรวง”
เท่าพิภพกล่าวและย้ำว่า การออกกฎกระทรวงออกมาแบบนี้เป็นหลักฐานว่าทางรัฐบาลไม่ยอมปล่อยให้มี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และสิ่งนี้ก็เป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ ตนจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ปลดล็อกและผ่านให้ได้