*หมายเหตุ: ภาพยนตร์เรื่อง Project Wolf Hunting เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป*
Project Wolf Hunting เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์ คือภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์จากเกาหลีใต้ โดยฝีมือของผู้กำกับ คิมฮงซอน จาก Metamorphosis (2019) ที่ได้เดินทางไปเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์มาแล้วหลายแห่ง เช่น L’etrange International Film Festival ครั้งที่ 28, Fantastic Fest Film Festival ครั้งที่ 17 และ Toronto International Film Festival ครั้งที่ 47
ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวของเหล่าอาชญากรเดนมนุษย์จำนวน 47 คน ที่ต้องขึ้นเรือขนส่งลำยักษ์ เพื่อส่งตัวนักโทษจากฟิลิปปินส์กลับมายังเกาหลีใต้ แต่ในระหว่างการเดินทางก็มีนักโทษคนหนึ่งแหกคุกออกมาและหมายจะยึดครองเรือลำนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องหาวิธีหยุดยั้งความคุ้มคลั่งของเหล่านักโทษสุดโหดที่พร้อมจะสังหารทุกคนเพื่อเป็นอิสระ แต่ดูเหมือนความวุ่นวายจะไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อภารกิจส่งตัวนักโทษในครั้งนี้กลับมีความลับบางอย่างแอบซ่อนอยู่
Project Wolf Hunting เปิดเรื่องมาด้วยการนำเสนอที่ค่อนข้างคลิเช่พอสมควร กล่าวคือในช่วงองค์แรกของเรื่อง ผู้กำกับและทีมสร้างเลือกใช้การนำเสนอที่เราพอจะคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก ไล่เรียงตั้งแต่การพานักโทษทั้ง 47 คนขึ้นไปบนเรือลำยักษ์ พร้อมๆ กับการแนะนำตัวละครต่างๆ อย่างคร่าวๆ ก่อนที่จะค่อยไต่ระดับความวุ่นวายของเหตุการณ์ขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนตัวผู้เขียนจึงค่อนข้างรู้สึกเฉยๆ กับการดำเนินเรื่องในช่วงแรกพอสมควร
แต่ดูเหมือนว่าตัวผู้กำกับและทีมสร้างจะตั้งใจเลือกใช้วิธีการนำเสนอแบบนั้น เพราะหลังจากที่เรื่องราวดำเนินมาถึงช่วงองค์ที่ 2 ภาพยนตร์ก็เริ่มเปิดเผยปมปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องหลักชนิดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จนสามารถฉุดให้เรื่องราวที่ดูเรียบนิ่งในช่วงแรก ค่อยๆ เพิ่มความน่าสนใจและชวนให้ผู้ชมร่วมหาคำตอบของปมปัญหาที่ภาพยนตร์ทิ้งเอาไว้มากขึ้นเรื่อยๆ
และด้วยความที่ภาพยนตร์ได้ฉายในเรต ฉ. 20+ ผู้กำกับและทีมสร้างจึงสามารถใส่ฉากแอ็กชันไล่ล่า ที่จัดหนักจัดเต็มด้วยฉากความรุนแรงและเลือดสาดแบบไม่ยั้ง เพื่อชวนให้เราร่วมลุ้นว่าจะมีใครรอดไปจากเรือลำนี้บ้าง รวมถึงตัวผู้กำกับที่เลือกใช้ความคับแคบของสถานที่ในการสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันไล่ล่า จนทำให้เรารู้สึกอึดอัดไปกับตัวละครได้ดีทีเดียว ดังนั้นสำหรับผู้ชมคนไหนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวแอ็กชันเลือดสาดและมีความเข้มข้นจริงจัง เราคิดว่า Project Wolf Hunting ค่อนข้างจะตอบโจทย์ในส่วนนี้พอสมควร
ขณะเดียวกัน แม้ว่า Project Wolf Hunting จะมีจุดเด่นในแง่ของไอเดียที่น่าสนใจและชวนติดตาม รวมถึงฉากแอ็กชันเลือดสาดที่ถือเป็นไฮไลต์ของเรื่อง แต่ภาพยนตร์ก็มีจุดสังเกตที่ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกติดขัดพอสมควร โดยเฉพาะพาร์ตของตัวละครที่ดูแบนราบ ไม่มีมิติให้เราได้เข้าไปสำรวจเท่าไร
กล่าวคือ ผู้กำกับและทีมสร้างเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มตัวละครหลักให้เราได้รู้จักเพียงผิวเผินเท่านั้น ไม่ได้พาเราไปเจาะลึกถึงภูมิหลังของตัวละครหลักอย่างเฉพาะเจาะจงเท่าไรนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะภาพยนตร์มีกลุ่มตัวละครที่ค่อนข้างเยอะ บวกกับการต้องใส่ฉากแอ็กชันเข้ามาเป็นระยะเพื่อไม่ให้เนื้อเรื่องนิ่งเกินไป มันจึงส่งผลให้ภาพยนตร์มีเวลาในการเล่าเรื่องของตัวละครให้เรารู้จักน้อยเกินไป และยังทำให้เราไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครตัวไหนเลย
ในภาพรวมแล้ว Project Wolf Hunting เรียกว่าเป็นภาพยนตร์แอ็กชันจากเกาหลีใต้ที่มาพร้อมกับไอเดียที่น่าสนใจ ชวนให้เราร่วมหาคำตอบไปพร้อมกับตัวละคร รวมถึงฉากแอ็กชันเลือดสาดและลุ้นระทึก ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบฉากแอ็กชันสไตล์นี้ เราคิดว่าคุณน่าจะสนุกสนานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ก็มีจุดสังเกตในแง่ของมิติตัวละครที่ดูจะแบนราบไปเสียหน่อย จนทำให้เราไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครอย่างที่ควรจะเป็น
Project Wolf Hunting มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่