ในการเลือกตั้งกลางเทอม ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ชาวอเมริกันกำลังจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งใหญ่กันอีกครั้ง โดยในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง จะมีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ใหม่ในทุกเขตทั้ง 435 เขต
ซึ่งในปัจจุบันพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่อย่างฉิวเฉียดด้วยจำนวน ส.ส. 222 ที่นั่ง ขณะที่พรรครีพับลิกันมี ส.ส. อยู่ 213 ที่นั่ง ซึ่งก็แปลว่า ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ รีพับลิกันต้องพลิกกลับมาเอาชนะเดโมแครตให้ได้ 5 เขต เพื่อจะกลับมาครองเสียงข้างมากแทน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงแต่อย่างใด เพราะตามสถิติแล้วพรรคของประธานาธิบดีมักจะเสียที่นั่งในการเลือกตั้งกลางเทอม (โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 26 ที่นั่ง) ยิ่งความนิยมของไบเดนอยู่ในแดนลบ ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่รีพับลิกันจะพลิกกลับมาเอาชนะได้เกิน 5 เขตนั้นมีอยู่สูงมาก
บทความนี้จะชวนไปสำรวจกันว่า เขตเลือกตั้งไหนบ้างที่พวกเขามีโอกาสยึดคืนมาจากเดโมแครต
เขตสีแดงใหม่จากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่
การเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกภายใต้เขตเลือกตั้งใหม่ที่ได้มาหลังการทำสำมะโนประชากรในปี 2020 ซึ่งในหลายๆ มลรัฐ เช่น ฟลอริดา โอไฮโอ และเทนเนสซี ที่พรรครีพับลิกันเป็นผู้ครองอำนาจในสภามลรัฐนั้น พวกเขาได้ใช้อำนาจนี้ในการขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่พรรคของพวกเขาเอง (Gerrymandering) ทำให้เขตเลือกตั้งที่เคยเป็นเขตของเดโมแครตกลายเป็นเขตที่มีรีพับลิกันมากกว่า ซึ่งได้แก่
- ฟลอริดา เขต 4, 7 และ 13
- โอไฮโอ เขต 9
- จอร์เจีย เขต 6
- เทนเนสซี เขต 5
ซึ่งทั้ง 6 เขตนี้ รีพับลิกันแทบจะการันตีว่าพวกเขาจะแย่งที่นั่งมาจากเดโมแครตได้โดยแทบไม่ต้องออกแรง (อาจจะยกเว้นแต่โอไฮโอ เขต 9 ที่พรรครีพับลิกันส่งนักการเมืองขวาจัดอย่าง เจอาร์ มาจิวสกี ลงสมัคร ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อจลาจลในรัฐสภาเมื่อเดือนมกราคม ปี 2021 ทำให้เจ้าของที่นั่งเดิมจากเดโมแครตอย่าง มาร์ซี แคปเตอร์ ยังมีโอกาสจะรักษาที่นั่งไว้ได้)
ยึดคืนเขตสีแดงเดิม
อีกกลุ่มเขตเลือกตั้งที่รีพับลิกันมีโอกาสสูงที่จะพลิกกลับมาเอาชนะเดโมแครตได้คือ เขตเลือกตั้งที่ทรัมป์เอาชนะไบเดนได้อย่างค่อนข้างเด็ดขาด แต่ว่าเขตเลือกตั้งเหล่านี้ยังโหวตให้กับ ส.ส. จากเดโมแครต ด้วยคะแนนนิยมส่วนตัวของ ส.ส. เหล่านั้น อันได้แก่ แอริโซนา เขต 2 และ 6, เมน เขต 2, ไอโอวา เขต 3, เพนซิลเวเนีย เขต 8 และวิสคอนซิน เขต 3
เขตเลือกตั้งเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกันคือ เป็นเขตชนบทที่มีความเป็นรีพับลิกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังเลือก ส.ส. จากเดโมแครตด้วยแบรนด์ส่วนตัวของ ส.ส. ที่มักจะชูภาพว่าพวกเขามีความเป็นนักการเมืองสายกลาง ไม่ได้ซ้ายจัดเหมือนนักการเมืองเดโมแครตคนอื่นๆ อย่างไรก็ดี ด้วยคะแนนนิยมที่ติดลบของไบเดนก็อาจทำให้พวกเขาไม่สามารถสลัดภาพตัวเองจากพรรคได้ และรีพับลิกันก็มีโอกาสสูงที่จะแย่งชิงที่นั่งมาได้อย่างน้อยๆ 2-3 ที่นั่งจากเขตเลือกตั้งกลุ่มนี้
เอาชนะในเขตสีม่วงด้วยการโจมตีไบเดน
เขตเลือกตั้งสีม่วงคือเขตที่มีโอกาสเลือกทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน ซึ่งเป็นสนามต่อสู้สุดคลาสสิกที่เดโมแครตและรีพับลิกันต้องฟาดฟันและแย่งชิงที่นั่งกันในทุกๆ รอบการเลือกตั้ง จริงอยู่ว่ารีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากในสภาล่างได้ด้วยการแค่ยึดคืนเขตสีแดงมาให้หมด แต่การที่พวกเขาจะครองเสียงข้างมากได้อย่างเด็ดขาดนั้น พวกเขาจำเป็นต้องชนะในเขตสีม่วงด้วย ซึ่งในตอนนี้เดโมแครตครองเก้าอี้ในเขตเหล่านี้อยู่กว่า 20 ที่นั่ง และเขตการเลือกตั้งเหล่านี้ก็มักจะเป็นเขตชานเมือง เช่น มินนิโซตา เขต 2 (ชานเมืองเซนต์พอล-มินนิอาโพลิส), เนวาดา เขต 3 (ชานเมืองลาสเวกัส), เพนซิลเวเนีย เขต 17 (ชานเมืองพิตต์สเบิร์ก) และอิลลินอยส์ เขต 14 (ชานเมืองชิคาโก)
เขตชานเมืองเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะโหวตให้กับเดโมแครตมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ เพราะการเมืองแบบชาตินิยมจัดของทรัมป์นั้นไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนขาวที่มีการศึกษาระดับปริญญา (ซึ่งเป็นประชากรหลักของเขตชานเมืองเหล่านี้) แต่อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ทรัมป์เองไม่ได้มีอำนาจในการบริหารอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นไบเดนจากเดโมแครต และรีพับลิกันก็พยายามฉายภาพให้ชาวชานเมืองเห็นถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการเศรษฐกิจของไบเดน โดยพวกเขาพยายามชี้ให้เห็นว่า ปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบันเกิดจากการใช้เงินมือเติบของรัฐบาลของไบเดน (เช่น การแจกเงินในช่วงโควิด และการยกหนี้การศึกษาให้ฟรี) และชาวชานเมืองควรจะเลือก ส.ส. ของรีพับลิกัน เข้าไปคานอำนาจ เพื่อให้การทำงบประมาณแผ่นดินในปีถัดไปมีความสมดุลมากขึ้น
จากผลโพลล่าสุด ความนิยมของผู้สมัครของทั้งสองพรรคในเขตเหล่านี้สูสีกันมาก แต่มีแนวโน้มว่าผู้สมัครของรีพับลิกันกำลังดีขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเราก็คงต้องดูกันต่อไปว่าพวกเขาจะแย่งชิงที่นั่งมาได้ทั้งหมดกี่ที่นั่ง
ระวังที่นั่งเดิมของตัวเอง
ในมลรัฐที่เดโมแครตครอบครองอำนาจ พวกเขาก็พยายามขีดเส้นเลือกตั้งให้ตัวเองได้เปรียบเช่นเดียวกัน ทำให้รีพับลิกันมีโอกาสเสียที่นั่งในอิลลินอยส์ เขต 13, นิวเม็กซิโก เขต 2 และนิวยอร์ก เขต 22
นอกจากนี้พวกเขาก็สามารถครอบครองที่นั่งในเขตชานเมืองสีม่วงอยู่ประมาณ 10 ที่นั่ง (เช่น เนบราสกา เขต 2 ซึ่งเป็นตัวเมืองและชานเมืองของเมืองโอมาฮา และโอไฮโอ เขต 1 เป็นตัวเมืองและชานเมืองของเมืองซินซินนาติ) ซึ่งเดโมแครตก็มีโอกาสจะพลิกกลับมาชนะได้เช่นกัน
ซึ่งถ้ารีพับลิกันไม่สามารถเอาชนะที่เขตสีม่วงของเดโมแครตได้ การเอาชนะที่เขตสีแดงเพียงอย่างเดียวอาจทำให้พวกเขาได้ไม่ถึง 5 ที่นั่งตามที่ต้องการ หากพวกเขาพ่ายแพ้ในบางเขตที่เป็นที่นั่งเดิม
ภาพ: Al Drago-Pool / Getty Images