กรมการขนส่งทางบกเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้บริการรถแท็กซี่หมดอายุเพื่อความปลอดภัย โดยแนะนำว่าก่อนใช้บริการควรสังเกตสภาพรถภายนอกที่ต้องมั่นคงแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถสังเกตได้จากหมวดอักษรบนแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งหากเป็นรถแท็กซี่นิติบุคคลที่สังกัดสหกรณ์ หรือบริษัทต่างๆ จะขึ้นต้นด้วยหมวด ‘ท’ โดยหมวดที่ยังมีอายุการใช้งานอยู่ในปัจจุบันคือ ทศ, ทษ, ทส, ทห กรณีที่เป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลเขียว-เหลืองจะขึ้นต้นด้วยหมวด ‘ม’ โดยหมวดที่ยังมีอายุการใช้งานในปัจจุบันคือ มช, มฎ, 1 มก, 1 มข ส่วนแท็กซี่ในหมวด ทว และ มฉ จะทยอยครบอายุการใช้งานภายในปีนี้
ในเบื้องต้นหากพบรถแท็กซี่หมวดทะเบียนนอกเหนือจากหมวดที่ระบุไว้ อาจเป็นแท็กซี่ที่ครบอายุการใช้งานแล้ว แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการ และแจ้งข้อมูลมายังกรมขนส่งทางบก สายด่วน 1584 เพื่อติดตามตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้คำเตือนดังกล่าวมีผลมาจากการลงพื้นที่เข้มงวดจับกุมผู้ฝ่าฝืนนำรถแท็กซี่จดทะเบียนครบ 9 ปี ซึ่งครบอายุการใช้งานตามกฎหมายแล้วมารับส่งผู้โดยสาร โดยเฉพาะบริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น รังสิต, ปทุมธานี, นนทบุรี โดยพบว่ามีแท็กซี่บางส่วนที่ครบอายุการใช้งานแล้วแต่ยังไม่ดำเนินการแจ้งระงับหรือแจ้งเปลี่ยนประเภทรถ ซึ่งผู้ที่นำแท็กซี่สิ้นอายุการใช้งานมาให้บริการจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท และต้องปลดป้ายทะเบียนออกทันที
ส่วนเจ้าของรถแท็กซี่ที่ครบอายุการใช้งานแล้วต้องดำเนินการส่งคืนป้ายทะเบียนและใบคู่มือจดทะเบียนรถเพื่อแจ้งระงับทะเบียน พร้อมถอดอุปกรณ์ส่วนควบของรถแท็กซี่ออก หากต้องการใช้รถเพื่อการส่วนตัว ต้องแจ้งเปลี่ยนประเภทจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และเปลี่ยนสีตัวรถให้ต่างจากสีแท็กซี่เดิม และห้ามนำมารับจ้างโดยเด็ดขาด
