องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ยังคงเดินหน้าหารือการเตรียมพร้อมด้านนิวเคลียร์ในระหว่างการประชุมแบบปิดที่กรุงบรัสเซลส์ ขณะที่รัสเซียไม่พอใจ พร้อมออกมาเตือนไม่ให้ตะวันตกเข้ามามีส่วนร่วม
การประชุมที่สำนักงานใหญ่ของ NATO มีขึ้นท่ามกลางความหวาดวิตกจากทั่วโลกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ หลังปูตินออกมาขู่ว่าจะโจมตีด้วยนิวเคลียร์ ประกอบกับรัสเซียทิ้งระเบิดถล่มยูเครนมากขึ้นในระยะนี้
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวในระหว่างการประชุม Nuclear Planning Group ของ NATO เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “เรามุ่งมั่นที่จะปกป้องทุกตารางนิ้วที่เป็นอาณาเขตของ NATO”
นอกจากนี้ เขายังประกาศด้วยว่า วอชิงตันจะจัดหาอาวุธและระบบป้องกันภัยทางอากาศล่าสุดให้ยูเครนเพื่อช่วยเหลือในการทำสงคราม
ด้าน เบน วอลเลซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า การซ้อมรบนิวเคลียร์ของ NATO ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้านั้น “เป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม
“ประเด็นหลักของการประชุมของ NATO คือเพื่อให้แน่ใจว่าเราพร้อมสำหรับทุกสิ่ง” เขากล่าว “เพื่อให้แน่ใจว่าพันธมิตรทั้ง 30 ชาติเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่างที่ขวางหน้า และนั่นคือสิ่งที่เราต้องติดตามต่อไป”
การเร่งผลักดันแผนการซ้อมรบนิวเคลียร์ของสมาชิก NATO สร้างความไม่พอใจให้กับรัสเซียเป็นอย่างมาก และออกมาเตือนถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากยูเครนเข้าร่วมกับ NATO
“เคียฟทราบดีว่าขั้นตอนดังกล่าวจะหมายถึงการยกระดับไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างแน่นอน” อเล็กซานเดอร์ เวเนดิกตอฟ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย กล่าวกับสำนักข่าว TASS “แม้แต่สมาชิกของ NATO เองก็ตระหนักดีว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการฆ่าตัวตาย”
ทั้งนี้ ในการซ้อมรบประจำปีของกองทัพอากาศ NATO ที่มีชื่อว่า Steadfast Noon นั้น จะเป็นการฝึกวิธีการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ด้วยการฝึกบินโดยไม่ใช้อาวุธจริง โดย เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การยกเลิกการฝึกเพราะสงครามในยูเครน จะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง
ภาพ: Beata Zawrzel / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง: