วันนี้ (4 ตุลาคม) สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า รัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชชเนีย เตรียมส่งลูกชาย 3 คน วัย 14-16 ปีไปยังแนวหน้า เพื่อเข้าร่วมรบในสงครามรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้ หลังจากฝึกฝนทักษะด้านการทหารให้กับลูกๆ ตั้งแต่ยังเด็ก และนี่จะเป็นหนึ่งในบททดสอบครั้งสำคัญของชีวิตพวกเขา
คาดีรอฟถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียเป็นอย่างมาก แม้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ เขาจะวิพากษ์วิจารณ์ถึงบทบาทกองทัพรัสเซียที่ถูกกองกำลังยูเครนโต้กลับ จนต้องมีการเรียกระดมพลครั้งใหญ่ โดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลระบุว่า “คนเป็นพ่อควรสอนให้ลูกๆ ของเขารู้จักวิธีการปกป้องครอบครัว ประชาชน และแผ่นดินเกิด”
ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คาดีรอฟแสดงความคิดเห็นถึงความสามารถของผู้บัญชาการกองกำลังรัสเซียในยูเครน โดยชี้ว่าเขาควรถูกริบเหรียญตราต่างๆ และถูกส่งไปยังแนวหน้าของการรบ พร้อมทั้งดูแคลนว่าเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นอะไร
คาดีรอฟระบุว่า ลูกๆ ของเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่เรื่องตลกขำขัน แต่มันคือช่วงเวลาที่พวกเขาจะได้พิสูจน์ตัวเองในสงครามจริง เขาทำได้เพียงตอบรับกับความปรารถนานั้น
รัสเซียเคยลงนามในสนธิสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิเด็กและความขัดแย้ง ซึ่งจะป้องกันมิให้เด็กๆ ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใดๆ โดยตรง อีกทั้งการให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าร่วมสมรภูมิความขัดแย้งใดๆ อาจได้รับการพิจารณาจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารัสเซียจะไม่รับรองขอบเขตอำนาจของศาลดังกล่าว
สงครามรัสเซีย-ยูเครนดำเนินมานานกว่า 7 เดือนแล้ว โดยเชชเนียเองก็ได้ส่งกองกำลังเข้าร่วมกับกองทัพรัสเซีย พร้อมทั้งเสนอให้รัสเซียพิจารณาการใช้อาวุธนิวเคลียร์พิสัยใกล้ในสงครามที่ยืดเยื้อครั้งนี้อีกด้วย
แฟ้มภาพ: Alexey Nikolsky / Sputnik / AFP
อ้างอิง:
