วันนี้ (29 กันยายน) สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ
หลังจากวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในขอบเขตระยะเวลา 180 วันก่อนที่สภาจะครบวาระ โดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ไปตรวจราชการที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และมีการขึ้นป้ายต้อนรับซึ่งมีข้อความว่า ‘ชาวเพชรบูรณ์ยินดีต้อนรับ’ แต่ในป้ายดังกล่าวกลับปรากฏรูปของรัฐมนตรี สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยรูปของ ส.ส. ทั้ง 5 คนได้เขียนเขตเลือกตั้งที่ตรงกับเขตเลือกตั้งใหม่ และยังมีรูปว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเจตนาชัดเจนว่าสิ่งนี้เป็นไปเพื่อที่จะใช้ในการหาเสียง และป้ายดังกล่าวมีการกล่าวอ้างว่าติดไว้แต่ถึงเวลาจริงนำออก แต่ตนมีหลักฐานทั้งคลิปวิดีโอและภาพนิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ณ วันที่ พล.อ. ประวิตร ได้ลงไปในพื้นที่ดังกล่าวยังปรากฏภาพอยู่ต่อหน้า ซึ่งตนจึงได้นำมาเสนอต่อ กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจากอยากให้มีการตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐคือ กกต. ได้ใส่ใจในการที่จะดูแลเรื่องนี้หรือไม่ใส่ใจที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะหลังจากที่มีข่าวออกมาไม่นานก็มีข่าวปรากฏในสื่อว่า แหล่งข่าวใน กกต. ระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่ผิด แต่ไม่มีการมาชี้แจงจากเจ้าหน้าที่หรือผู้รับผิดชอบโดยตรง แต่เป็นการพูดโดยลอยๆ เพื่อกลบข่าวให้ปิดไป
สมชัยกล่าวว่า การมายื่นในวันนี้ก็เพื่อให้ กมธ.ป.ป.ช. ได้มีโอกาสเชิญตัวแทนของสำนักงานเลขาธิการ กกต. และ เลขาธิการ กกต. มาชี้แจงต่อกรรมาธิการว่าป้ายต้อนรับดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าผิดจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หรือถ้าไม่ผิดเป็นเหตุผลประการใด เพื่อที่จะได้ถือเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินการเรื่องการหาเสียงต่อไป
ส่วนที่ตนจะไปยื่นต่อ กกต. นั้น สมชัยกล่าวว่า ทราบจากข่าวว่าเลขาธิการ กกต. ได้รับทราบเรื่องแล้ว และระบุว่าตนจะมายื่นหรือไม่ยื่นก็ได้ ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะไปยื่นในวันอังคารที่จะถึงนี้ ดังนั้นก็จะให้โอกาส กกต. ในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และถ้าครบ 1 เดือนไม่มีความคืบหน้า ตนจะไม่ไปยื่นต่อ กกต. แต่จะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง หากครบ 1 เดือนยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่โปร่งใสและตรงไปตรงมา
ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า กรณีที่สมชัยมาร้องเรียนกล่าวหาพรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค, สันติ ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้กระทำผิดตามกฎระเบียบและคำสั่งของ กกต. ที่เพิ่งออกมาใหม่ๆ เพราะจะเป็นการจูงใจหาเสียงก่อนมีประกาศพระราชกฤษฎีกา
นอกจากนี้ยังมีรูปผู้สมัคร 6 คน ซึ่งในพื้นที่เพชรบูรณ์ เดิมทีมี ส.ส. เขต 5 คน แต่ในการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่จะมี ส.ส. 6 คน ซึ่งในแผ่นป้ายนี้นอกจากจะใหญ่เกิน ก็ยังมีรายชื่อผู้สมัครเป็น ส.ส. โดยเฉพาะเขต 3 เป็นเขตผู้สมัครใหม่ ตรงนี้ถือว่ามีเจตนาจงใจกระทำการหาเสียง เพื่อจงใจให้ประชาชนได้เลือกตั้งบุคคลในพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยความรู้เห็นของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. ออกมาระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่ผิดนั้นเป็นการปกป้องกัน ทั้งนี้ ตนจะต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเจ้าหน้าที่ กกต. ที่เป็นแหล่งข่าวนี้คือใคร แทนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำความผิดที่เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ แต่กลับมาปกป้องพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล
“ดีนะที่ผมมีคุณสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. มาเป็นประธานนโยบายของพรรค แต่วันนี้ท่านมายื่นเรื่องในฐานะบุคคลธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค ซึ่งตนก็เพิ่งทราบเรื่อง ถือว่าโชคดีที่พี่น้องประชาชนมี กกต. 7 คน และสมชัยคนที่ 8 มาช่วยตรวจสอบความไม่ถูกต้องทั้งหลายทั้งปวง โดยรัฐไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งตรงนี้ผมก็ขอบคุณท่านสมชัยที่ได้นำเรื่องนี้มาเสนอต่อคณะกรรมาธิการ ก็จะได้ตรวจสอบความไม่ถูกต้อง ไม่โปร่งใสต่างๆ ต่อไป และเรื่องเหล่านี้ก็รู้ว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน จะรีบดำเนินการให้” พล.ต. เสรีพิศุทธ์กล่าว