บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่งบริษัทย่อยอย่าง บริษัท อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง จำกัด ลงนามความร่วมมือกับ Computer Forms (Malaysia) Berhad (CFM) เพื่อลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา
ปัจจุบันมาเลเซียมีนโยบายด้านพลังงานในการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล มุ่งเน้นให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นถึง 37% ตามแผนนโยบาย ในปี 2022-2040 อีกทั้งการเข้าร่วม COP26 ของทางรัฐบาล เพื่อตอบสนองต่อนโยบายแห่งชาติในเวทีโลก เข้าสู่สังคมไร้มลพิษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กูรูต่างประเทศมอง ธปท. กำลังเดิมพันดอกเบี้ยกับ เงินเฟ้อ ชี้นโยบายการเงินไทยมองโลกในแง่ดีเกินไป ด้าน ‘อาคม’ ย้ำยังไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย
- วิเคราะห์ 5 สัญญาณ บ่งชี้ เงินเฟ้อ โลกใกล้ถึงจุดพีค
- 10 อันดับ สกุลเงินเอเชีย ที่อ่อนค่าสูงสุดนับจากต้นปี 2565
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า การลงนามครั้งนี้นับเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของ EA ที่ได้รับการยอมรับในการนำนวัตกรรม Ultra Fast Charge Technology ผ่านผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและผลิตในประเทศไทยเข้าสู่ตลาดขนส่งมวลชนของมาเลเซีย ก่อให้เกิดการร่วมลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ร่วมกันในอนาคต สามารถผลักดันในบริษัทขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกและตลาดโลกต่อไปในอนาคต
สำหรับการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ในระยะแรก CFM จะช่วยบริษัทร่วมทุนทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าและระบบอัดประจุไฟฟ้าในประเทศมาเลเซีย ปัจจุบันได้มีการลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายรถโดยสารไฟฟ้าของกลุ่ม EA จำนวน 200 คัน ให้กับ Gemilang International Limited (GML) ตลอดจนติดตั้งสถานีอัดประจุฯ Ultra Fast Charge ที่ใช้เวลาอัดประจุเพียง 15-20 นาที ซึ่งเหมาะกับรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากจะช่วยให้การเดินรถเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ส่วนระยะที่ 2 จะมีการขยายตลาดการคมนาคมขนส่งไฟฟ้าไปทั่วทั้งมาเลเซีย ผ่านผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม EA ทั้งรถโดยสารไฟฟ้า เรือไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้าในอนาคต รวมทั้งร่วมกันศึกษาขยายฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในประเทศมาเลเซีย
การร่วมมือครั้งนี้นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของทั้งสองบริษัทเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบขนส่งมวลชนภายในตัวเมืองให้มีความยั่งยืน ปลอดมลพิษมากขึ้น ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังถือเป็นโอกาสสำคัญของทั้ง EMH และ CFM ที่ได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการยกระดับระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้าที่เกิดจากความร่วมมือกันในระดับประเทศ เพื่อสร้างการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นฐานในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลกในอนาคต