วันนี้ (29 สิงหาคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวปรากฏตามสื่อว่า มีผู้เทน้ำมันลงท่อระบายน้ำของ กทม. จากการตรวจสอบพบว่า เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่เขตจตุจักร โดยฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตจตุจักร ได้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดเท หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ ประกอบกับมาตรา 57 บทกำหนดโทษ
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 33 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท โดยได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด 10,000 บาท ตามคดีเลขที่ 3747/65 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2565
กรณีมีผู้แจ้งเบาะแส จะได้รับเงินส่วนแบ่งรางวัลนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับตามผลคดีที่ได้เปรียบเทียบปรับ ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ นี้ได้ทาง Traffy Fondue
ชัชชาติกล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. วันนี้ ที่ประชุมได้มีมติให้สำนักเทศกิจเร่งรัดดำเนินการในการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย โดยเชิญภาคเอกชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งสำนักเทศกิจได้รายงานข้อมูลพื้นที่ทำการค้าที่ได้ดำเนินการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอยแล้ว ประกอบด้วย
- พื้นที่เขตราชเทวี ได้แก่ สะพานหัวช้าง ซอยรางน้ำ ซอยเสนารักษ์ (ถนนโยธี) ได้รับการสนับสนุนร่ม และแผงค้าแบบน็อกดาวน์จาก King Power
- พื้นที่เขตบางกอกน้อย ได้แก่ ซอยแสงศึกษา ได้รับการสนับสนุนร่มกันแดดจากโรงพยาบาลธนบุรี
- พื้นที่เขตดุสิต บริเวณซอยสังคโลก (ข้างโรงพยาบาลวชิรพยาบาล) ได้รับการสนับสนุนร่ม โต๊ะ-เก้าอี้ ที่ล้างรวม บ่อดักไขมัน จากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช