เปิดประวัติศาสตร์ทำไมเสียงริงโทนของ Nokia ถึงได้กลายเป็นไวรัลติดหูได้

หนึ่งในผู้เก็บรักษาริงโทนชื่อดังบนโลกออนไลน์และนักดนตรีจากสกอตแลนด์วัย 20 ปี อย่าง Fuxocide ที่ชื่นชอบโทรศัพท์ฝาพับของเขารุ่น Alcatel เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก

“ผมชอบริงโทนเก่าๆ นะ ส่วนหนึ่งคือมันทำให้รำลึกถึงความหลัง และอีกส่วนหนึ่งคือผมคิดว่ามันเป็นของมีค่าที่ถูกมองข้าม” เขากล่าว โดย ณ ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของบัญชี Twitter ยอดนิยมอย่าง @ringtonebangers พร้อมกับบัญชีอื่นๆ อย่าง @OldPhonePreserv พวกเขาช่วยเก็บรักษาเสียงเรียกเข้าของ Andre Louis ซึ่งเป็นที่เก็บซอฟต์แวร์โทรศัพท์ คลังเสียง และเสียงเรียกเข้าจากอดีต

เสียงริงโทนที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nokia ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ผ่านผู้คนที่มีงานอดิเรกในการเก็บรักษาเสียงริงโทนจากโทรศัพท์เก่าๆ

“บางทีเฟิร์มแวร์ก็ถูกเข้ารหัสไว้อย่างแน่นหนา ซึ่งทำให้ยากที่จะแตกไฟล์ออกมา” เขากล่าว “ส่วนใหญ่แล้วไฟล์พวกนี้ถูกส่งต่อไปให้คนที่มีประสบการณ์มากกว่าเข้ามาจัดการ”

ความรักของเขาที่มีต่อสื่อเสียงในด้านวัฒนธรรม ทำให้บัญชีของเขาเป็นมากกว่าคลังเก็บข้อมูลทั่วไป ซึ่งต้องขอบคุณความพยายามของเขาในการขอไฟล์และการขอสัมภาษณ์ผู้แต่งเพลงอย่างต่อเนื่อง

ยุคแห่งเสียงริงโทนเริ่มต้นในช่วงกลางของยุค 90 โดย Nokia Tune ที่หยิบยืมมาจากเพลง Gran Vals ของนักกีตาร์คลาสสิกอย่าง Francisco Tárrega ซึ่งหากคุณย้อนเวลาไปตอนนั้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มันก็ยากที่จะหนีจากมรดกเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาไปได้

Timo Anttila หนึ่งในนักเขียนเพลงรุ่นแรกๆ ของบริษัท ได้ซื้อโทรศัพท์เครื่องแรกของเขารุ่น Nokia 2110 เมื่อปี 1996 “อยู่ดีๆ ทุกคนก็มีโทรศัพท์เป็นของตัวเอง และต้องการเสียงเรียกเข้าและพื้นหลังแบบเฉพาะตัว” เขากล่าว “เสียงริงโทนช่วงแรกๆ มันน่ารำคาญจริงๆ แต่เสียงพวกนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและช่วยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของวงการเสียงอย่างมาก”

นอกจาก Anttila แล้ว ทีมเสียงของ Nokia ยังประกอบด้วยนักเขียนเพลงรุ่นใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hannu af Ursin, Henry Daw, Aleksi Eeben, Markus Castrén และผู้รับเหมาอย่าง Ian Livingstone และ Noa Nakai

ในปี 2000 Livingstone ได้ลงโฆษณาในนิตยสารเพื่อค้นหางานภายใต้ชื่อบริษัท ‘MTS Media Themes and Sound Design’ และเมื่อหัวหน้าฝ่ายเสียงของ Nokia ในขณะนั้นอย่าง Jarkko Ylikoski ตอบกลับ เขา (Livingstone) ก็ถูกบังคับให้เปิดเผยว่าบริษัท MTS นั้นมีเพียงแค่เขาคนเดียวที่ทำงานในห้องนอนเล็กๆ เท่านั้น

Livingstone ผู้ซึ่งแต่งเพลงให้กับเกมชื่อดังอย่าง Forza Horizon 5 และเกมตระกูล Total War ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์เมื่อครั้งยังทำงานอยู่กับ Nokia

“ผมใช้เวลา 2-3 ปี ในการเขียนโปรแกรมไว้แบ็กเสียงคาราโอเกะผ่าน MIDIfiles ให้กับ Roland อธิบายง่ายๆ ก็คือการถอดเสียงจากเพลงป๊อปชื่อดัง และ ‘ทำซ้ำ’ เพลงพวกนั้นผ่านชุดเสียง MIDI ธรรมดาทั่วไป” เขากล่าว “ดังนั้นผมจึงมีทริกเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้ทรัพยากรเสียงที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด”

ตอนนั้น Nokia พร้อมที่จะพิชิตข้อจำกัดของโทรศัพท์ที่มีลำโพงขนาดเล็กและสลักภาพจิตวิญญาณของเสียงไว้ในช่วงต้นของยุค 2000 โดยการทำงานสัปดาห์แรกของ Henry Daw เขาถูกพาไปที่ห้องและถูกขอให้สร้างริงโทนจากคีย์บอร์ดขนาดเล็กที่ต่อกับคอมพิวเตอร์บนโปรแกรม Cubase ซึ่งเขายังรู้จักพวกมันไม่ดีพอ “ช่วงแรกมันก็น่ากลัวนะ แต่ผมเอาตัวเองเข้าไปอยู่กับมันและสามารถสนุกกับความท้าทายต่างๆ ได้” เขากล่าว

ทีมงานมักตรวจสอบโทรศัพท์ของคู่แข่งอยู่บ่อยๆ เพื่อทำการวิจัย ตามข้อมูลจาก Ursin สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือการที่ลูกค้าซื้อโทรศัพท์ใหม่มาและไม่พบกับสิ่งที่ตรงกับรสนิยมของพวกเขา โดยเป้าหมายของทีมคือ ‘โทรศัพท์ที่เหมาะสำหรับทุกคน’

และในช่วงปี 2005 Anttila พบว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็ได้ยินแต่เสียงริงโทนที่เขาแต่งขึ้นหรือเคยร่วมงานด้วย “ณ ตอนนั้นทุกคนเปิดเสียงโทรศัพท์กันหมด มีเสียงริงโทนอยู่ทุกที่ โคตรแปลก” เขากล่าว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบเสียงริงโทนอันไพเราะของ Nokia โดยจากการที่ Livingstone ติดตั้งสตูดิโออัดเสียงในห้องใต้ดินของบ้านเขาเองนั้น เขาจำได้ว่าแผ่นเก็บเสียงนั้นมีจุดบกพร่องและทำให้เสียงหลุดไปในห้องครัว “ภรรยาของผมเป็นบ้าจากการที่ต้องฟังริงโทนของ Nokia ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลาหลายวัน” เขากล่าว

ณ ตอนนี้ทีมงานรุ่นเก๋าของ Nokia ยังคงประหลาดใจที่ยังมีคนสนใจในงานของพวกเขาอยู่ ซึ่ง Anttila นั้นรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เก็บไฟล์ต้นฉบับจากตอนนั้นไว้ อย่างไรก็ตาม Livingstone กล่าวว่า เขาเก็บไฟล์ต้นฉบับไว้ได้กว่า 90% และวางแผนจัดระเบียบไฟล์เพื่อสร้างคลังเพลงไว้ให้ชุมชนของเพลงสืบต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง: