Nokia ค่ายมือถืออดีตเคยแรงจากประเทศฟินแลนด์ เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ G22 ที่มีความพิเศษคือผู้ใช้งานสามารถซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ของมันด้วยตัวเองได้ โดยใช้ชุดเครื่องมือและคู่มือจาก iFixit ที่จะแถมมาพร้อมตัวเครื่อง
ข้อมูลจากเว็บไซต์ The Verge ระบุว่า Nokia G22 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 720×1200 พิกเซล ซีพียู Unisoc T606 (Cortex A75 2 คอร์ และ Cortex A55 2 คอร์) แรม 4GB ความจุ 64GB โดยกล้องหน้าจะมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีกล้องหลัง 3 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12
นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้ในการผลิต Nokia ยังเน้นให้เป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้เครื่องมือและคู่มือที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่องในการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ที่มักจะเกิดความเสียหาย เช่น หน้าจอ, ฝาหลัง, แบตเตอรี่ และรูเสียบชาร์จ ได้ด้วยตัวเอง
Adam Ferguson หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การตลาดของ HMD Global เจ้าของแบรนด์ Nokia กล่าวว่า Nokia G22 ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่กำลังมาแรงโดยเฉพาะในยุโรป ทำให้บริษัทผู้ผลิตมือถือต้องให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น เพื่อลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์
ขณะเดียวกัน นักกฎหมายจากหลายประเทศในยุโรปก็มีการเรียกร้องให้ผู้ใช้งานมีสิทธิในการซ่อมแซมหรือ Right to Repair มือถือของตัวเองได้มากขึ้น ในกรณีที่เกิดความเสียหายขั้นพื้นฐาน เช่น การหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเอง แทนที่จะต้องนำส่งเข้าศูนย์บริการของบริษัท
“การซ่อมแซมมือถือได้ด้วยตัวเองจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีค่าใช้จ่ายลดลงจากการเปลี่ยนมือถือใหม่ราว 30%” Ferguson กล่าว
ทั้งนี้ Nokia G22 จะเริ่มวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรในวันที่ 8 มีนาคมนี้ โดยราคาขายจะอยู่ที่ 149.99 ปอนด์ หรือราว 6,250 บาท ขณะที่ราคาอะไหล่ที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อมาซ่อมแซมเครื่องด้วยตัวเองจะถูกกำหนดไว้ดังนี้ หน้าจอ 44.99 ปอนด์ (2,080 บาท) แบตเตอรี่ 22.99 ปอนด์ (1,250 บาท) และพอร์ตสำหรับเสียบชาร์จ 18.99 ปอนด์ (800 บาท)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไม่เป็นแล้ว ‘บริษัทสมาร์ทโฟน’ Nokia เปลี่ยนโลโก้ใหม่ในรอบ 45 ปี ตั้งเป้ามุ่งสู่ ‘บริษัทเทคโนโลยีสำหรับภาคธุรกิจ’
- ตลาดฟีเจอร์โฟนยังไม่ตาย! Nokia ส่ง 2 รุ่นใหม่ 105 4G และ 110 4G เจาะผู้สูงวัย-กลุ่มธุรกิจ วางราคาเริ่มต้น 990 บาท
- เคยฟังจนติดหูกันไหม? เปิดประวัติศาสตร์ทำไมเสียงริงโทนของ Nokia ถึงได้กลายเป็นไวรัลติดหูได้
อ้างอิง:
