วันนี้ (11 สิงหาคม) ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา (ส.ว.) แถลงชี้แจงถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (10 สิงหาคม) ในประเด็นเรื่องการนับองค์ประชุมว่า ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายในมาตราที่ 24/1 ได้มีการนับองค์ประชุมครั้งแรกโดยเครื่องลงคะแนนเสียงเพื่อแสดงตน โดยมีสมาชิกรัฐสภาแสดงตนในครั้งนั้น 367 คน มีผู้เข้าร่วมประชุมเกินกึ่งหนึ่งไป 3 คน จากนั้นมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยขอให้นับองค์ประชุมใหม่โดยวิธีการขานชื่อ โดยให้เหตุผลว่ามีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน ซึ่งเป็นการประพฤติมิชอบ โดยมีผู้รับรองถูกต้อง ซึ่งการขอให้ขานรายชื่อนับองค์ประชุมถือเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาตามข้อบังคับการประชุม และตนพิจารณาแล้วมองว่าหากปล่อยไปจะเกิดข้อถกเถียงและหาข้อยุติไม่ได้ ตนจึงพิจารณาอนุญาตให้นับองค์ประชุมโดยการขานรายชื่อสมาชิกที่สภาเป็นรายบุคคล
ในความเห็นของตนที่ผ่านมามองว่ามีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลยที่สมาชิกรัฐสภาจะใช้วิธีไม่เข้าร่วมประชุมเพื่อให้ร่างกฎหมายตกไป ย่อมขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภาของแต่ละท่าน
ตนจึงให้นับองค์ประชุมแบบขานรายชื่อ แล้วมีสมาชิกแสดงตน 403 คน พบว่ามีสมาชิกแสดงตนขาดไปประมาณ 20 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสมาชิกบางส่วนเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิ์ โดยมีความประสงค์ให้กฎหมายเป็นไปด้วยกรอบเงื่อนไข 180 วัน
นอกจากนั้นศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร ยังกล่าวถึงความเห็นของวิปวุฒิสภาถึงการนัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในครั้งถัดไปว่า ทางวิปวุฒิสภามองว่าเหลือเพียงวันที่ 15 สิงหาคมเพียงวันเดียวในการพิจารณากฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามกรอบ 180 วัน ซึ่งหากนัดประชุมร่วมเพื่อพิจารณากฎหมายลูก ทางวุฒิสภาก็จะค้างการพิจารณาร่างกฎหมายอยู่หลายฉบับ และเกรงว่าเมื่อนัดประชุมไปองค์ประชุมอาจไม่ครบ ซึ่งต้องรอมติจากที่ประชุมวุฒิสภาอีกครั้งว่าจะมีความเห็นไปในทิศทางใดและจะให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 15 สิงหาคมนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร ได้นำพระที่ห้อยติดตัวมาสาบานต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงกรณีที่ตนได้สั่งพักการประชุมเป็นเวลา 2 นาที ซึ่งนำมาสู่การตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการสั่งพักการประชุมเพื่อออกไปรับคำสั่งหรือโทรศัพท์ผู้ใด ตนนั่งประชุมเกือบ 4 ชั่วโมง ท่านก็คงทราบอยู่แล้วว่าผู้ชายอายุ 70 ปี ต้องเข้าห้องน้ำด้วยความถี่เท่าไร ตนหาโอกาสที่เหมาะสมระหว่างนั่งประชุมกว่า 4 ชั่วโมง แล้วไม่ทราบว่าจะต้องนั่งไปอีกเท่าไร
“ผมขอสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปบูชาของผม และพระสยามเทวาธิราชอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดิษฐานประจำสภาแห่งนี้ว่า กิจกรรมที่เข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะนั้น มีเพียงกิจกรรมเพียงอย่างเดียว และรีบกลับมาภายใน 2 นาที หากผมได้ทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ขอให้ความวิบัติจงมีแก่ผมตลอดไป”
ช่วงสุดท้าย ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร กล่าวว่า ตนไม่ถือสาผู้ที่ลงข่าวทำให้ตนเสียหาย ไม่ติดใจ และไม่ต้องมาขอโทษตน แต่ผู้ที่รู้ข้อเท็จจริงอยู่แล้วแต่กลับมาใส่ความบิดเบือนกล่าวหาตน ก็ขอให้พระสยามเทวาธิราชของอาคารรัฐสภาแห่งนี้คงจะได้ตอบสนองความทุกข์ยากให้แก่ผู้ที่พูดไม่จริงบนแผ่นดินของรัฐสภาแห่งนี้
