แม้ว่า OMEGA นาฬิกาสัญชาติสวิสจะมีภาพลักษณ์ที่เน้นหนักไปที่นาฬิกาสำหรับผู้ชาย แต่รู้หรือไม่ว่าทุกครั้งที่ OMEGA เปิดตัวเรือนเวลาสำหรับผู้หญิง จะตามมาด้วยเสียงตอบรับที่ดีจากแฟน OMEGA และนักสะสมทั่วโลก ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและมักจะสอดแทรกความหมายที่สะท้อนบทบาทของผู้หญิงในหลากหลายแง่มุมผ่านการดีไซน์ รวมถึงกลไกที่เที่ยงตรงและคุณภาพตามมาตรฐานระดับสูง 

และถ้าพูดถึงนาฬิกาสำหรับผู้หญิง ต้องมีชื่อของ Trésor (เทรซอร์) ซีรีส์ที่ OMEGA เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1949 โดย OMEGA รังสรรค์ชื่อนี้ขึ้นมาเพื่อสื่อความหมายถึงขุมสมบัติที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน และนั่นอาจจะหมายถึงกลไกระดับตำนานขนาด 30 มิลลิเมตร ที่ติดตั้งภายในตัวเรือนบางเฉียบก็เป็นได้ เพราะยุคนั้นถือเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะผลิตนาฬิกาที่เล็กและบาง โดยที่ยังสามารถเดินได้อย่างเที่ยงตรง แต่ OMEGA ทำได้ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับนาฬิกาสำหรับผู้หญิงของแบรนด์ และเป็นหนึ่งในกลไกที่ล้ำที่สุดในปัจจุบัน

ปี 2017 OMEGA ปรับโฉม Trésor พร้อมเปิดตัวมาในคอลเล็กชัน De Ville ที่ชื่อ De Ville Trésor Co-Axial Master Chronometer Small Seconds 40 mm โดดเด่นในเรื่องดีไซน์เพรียวบาง เรียบหรู ในสไตล์ Dress Watch ที่ผสมผสานความคลาสสิกและร่วมสมัยได้อย่างมีเอกลักษณ์ ทำให้ซีรีส์ Trésor เป็นที่จับตามองจนใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ 

มาปีนี้ซีรีส์ Trésor ถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นแฟชั่นไอเท็มสุดหรู และยังคงอยู่ภายใต้คอลเล็กชัน De Ville อีกครั้ง ในชื่อ OMEGA De Ville Mini Trésor ด้วยขนาดเพียง 26 มิลลิเมตร แต่ยังคงถ่ายทอดจุดเด่นของคอลเล็กชันรุ่น 36 มิลลิเมตรไว้ครบถ้วน ตั้งแต่หน้าปัดแสดงเลขโรมันเพรียวบาง ขอบตัวเรือนประดับเพชรสะท้อนความพลิ้วไหว ตกแต่งรูปดอกไม้ที่ทำขึ้นจากโลโก้ ‘OMEGA’ ประดับด้วยเพชรเม็ดงาม ฝาหลังเป็นกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบโลหะ ตกแต่งลวดลาย Her Time อย่างสวยงาม 

‘De Ville Mini Trésor’ ผลิตออกมาให้เลือก 2 รุ่น โดยรุ่นแรกสะท้อนความหรูหราเหนือระดับของทองคำ Moonshine 18K ทั้งตัวเรือนและสายนาฬิกา ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษของ OMEGA ที่มอบความสุกสว่างเปล่งประกายกว่าทองคำทั่วไป และยังนำ Moonshine 18K มาขึ้นเป็นตัวเรือน สายนาฬิกา หลักชั่วโมง และหน้าปัด พร้อมลวดลายผ้าไหมสะท้อนความหรูหราเหนือระดับ ในขณะที่อีกโมเดลใช้ทองคำ Moonshine 18K ขึ้นตัวเรือนและสายนาฬิกาเช่นกัน ต่างกันตรงหน้าปัดที่ใช้เทคนิคการลงยา ‘Grand Feu’ สี Off-white ตัดด้วยหลักชั่วโมงเลขโรมันและเข็มนาฬิกาสีดำ กลายเป็นเรือนเวลาที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์น่าค้นหา 

และที่ดูจะถูกใจนักสะสมเห็นจะเป็น ‘De Ville Mini Trésor’ ตัวเรือนสเตนเลส มาพร้อมสาย Toile de Jouy แบบ Double Tour และ ‘De Ville Mini Trésor’ ตัวเรือนทองคำ Moonshine 18K มาพร้อมสาย Toile de Jouy แบบปกติ ทุกรุ่นเผยโฉมด้วยหน้าปัดที่ใช้กรรมวิธีลงยา ‘Grand Feu’ สี Off-white เสริมจุดเด่นด้วยหลักเลข มีทั้งสีแดง น้ำเงิน และดำ ล้อเข้าคู่กันไปกับสายนาฬิกา 

เหตุผลสำคัญที่ตัวเลือกหลังน่าจะถูกจับจองก่อน เพราะสายนาฬิกา Toile de Jouy ที่ OMEGA เลือกใช้นั้นได้แรงบันดาลใจจากผ้าพิมพ์ลายในศตวรรษที่ 18 จากแถบตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นเรือนเวลาที่สอดแทรกคุณค่างานศิลป์ ผสานระหว่างความสง่างามแบบคลาสสิกของฝรั่งเศสและความหรูหราในแบบสวิส 

ยิ่งไปกว่านั้น OMEGA เลือกที่จะผลิตสายผ้า Toile de Jouy ที่โรงงงาน โดยออกแบบลวดลายให้เชื่อมโยงกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น สีฟ้า สื่อถึงการบุกเบิกท้องทะเล, สีดำวาดลวดลายผีเสื้อ สื่อถึงประวัติศาสตร์ด้านการบินกับการสำรวจอวกาศ และสีแดงภาพวาดดอกไม้ ตัวแทนความละเอียดอ่อนในโลกของนาฬิกาผู้หญิง

และถ้าคุณเป็นแฟนแบรนด์ที่ติดตามความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ น่าจะเห็นว่า Zoë Kravitz (โซอี คราวิตซ์) Catwoman เวอร์ชันปี 2022 หนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ OMEGA ก็เลือกใส่ ‘De Ville Mini Trésor’ ตัวเรือนสเตนเลส พร้อมสาย Toile de Jouy แบบ Double Tour ในการถ่ายภาพยนตร์โฆษณาชุด ‘My Choice’ ด้วยเช่นกัน 

https://www.youtube.com/watch?v=NejzRmI13XI

อย่ามัวแต่จดจำตำนานของ OMEGA แต่จงเป็นส่วนหนึ่งของตำนานด้วยการเป็นเจ้าของ ‘De Ville Mini Trésor’ หนึ่งในรุ่นที่ควรค่าแก่การครอบครองได้แล้ววันนี้ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูติกของ OMEGA สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร. 0 2160 5959 และสาขาสยามพารากอน โทร. 0 2129 4878 หรือ LINE @OMEGAThailand