วานนี้ (21 กรกฎาคม) ทางการสหรัฐอเมริกาเผย พบผู้ป่วยด้วยโรคโปลิโอที่เขตร็อกแลนด์ บริเวณชานเมืองนิวยอร์กซิตี้ รัฐนิวยอร์ก หลังจากป่วยเป็นอัมพาตเมื่อราว 1 เดือนก่อน นับเป็นผู้ป่วยโปลิโอรายแรกของสหรัฐฯ ในรอบเกือบ 10 ปี
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวอาจติดเชื้อไวรัสที่มีกำเนิดมาจากพื้นที่นอกสหรัฐฯ โดยทางการท้องถิ่นเร่งติดตามสมาชิกในครอบครัว และผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าวแล้ว
ทางด้านผู้เชี่ยวชาญเผยว่า เคสผู้ป่วยนี้อาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่อ่อนแอ ซึ่งใช้ในวัคซีนโปลิโอประเภทใช้ผ่านทางช่องปากในต่างประเทศ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ทางการสหรัฐฯ ยุติการใช้วัคซีนชนิดดังกล่าวในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2000
ขณะที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ อย่าง CDC ยืนยันว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยโปลิโอจริง และยังไม่เคยพบผู้ติดเชื้อไวรัสนี้จากภายในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 1979 ก่อนที่จะพบการติดเชื้อในนักท่องเที่ยวรายหนึ่งในปี 1993 และมีรายงานผู้ติดเชื้อรายล่าสุดเท่าที่ทราบว่าป่วยเป็นโรคโปลิโอจากวัคซีนชนิดใช้ในช่องปาก เมื่อปี 2013
โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการของโรค ซึ่งไวรัสชนิดนี้ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เจ็บคอ มีไข้ รู้สึกอ่อนเพลีย มีอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม และในผู้ป่วยบางรายยังสามารถก่อกวนระบบประสาท และเป็นสาเหตุของอัมพาตได้อีกด้วย
ในขณะนี้ โรคโปลิโอยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด แต่เราสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ด้วยการเข้ารับวัคซีนโปลิโอ ซึ่งโรคนี้เคยเป็นหนึ่งในโรคที่น่ากลัวที่สุดที่สหรัฐฯ และพลเมืองอเมริกันเคยเจอมา เคยมีผู้ป่วยโรคโปลิโอมากถึง 35,000 รายต่อปี ในช่วงปลายทศวรรษ 1940 ก่อนที่วัคซีนโปลิโอจะคิดค้นแล้วเสร็จ และใช้งานได้ในปี 1955 ในขณะนี้ทางการสหรัฐฯ แนะให้ผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนโปลิโอ หรือเข้ารับแล้วแต่ยังไม่ครบโดส ควรเข้ารับวัคซีนให้ครบ เพราะการรับวัคซีนครบ 3 โดส สามารถป้องกันการป่วยของโรคโปลิโอได้เกือบ 100% เลยทีเดียว
ภาพ: Dan76 / Shutterstock
อ้างอิง:
