วันนี้ (20 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวชี้แจงถึงข้อกล่าวหาในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 4 ประเด็น คือ เรื่องที่ดินการรถไฟ เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์, ประเด็นการขายหุ้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นนิติกรรมอำพราง, ประเด็นการจัดสรรงบประมาณกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ให้จังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกติ และประเด็น MR-MAP เป็นการลงทุนโครงการซ้ำซ้อน
ศักดิ์สยามกล่าวว่า สำหรับที่ดินเขากระโดงมีการอภิปรายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2502 ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิที่ดินตามกฎหมาย และในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแล ไม่เคยแทรกแซงในการดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ระบุว่าเป็นเรื่องเดิมที่เคยชี้แจงมาแล้ว หากใครต้องการรับฟังอีกให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่แสดงอยู่เพื่อย้อนฟัง
ตามกระบวนการดำเนินการทางการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องพิจารณาคือ กรณีที่ประชาชนมีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินโดยชอบที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐนั้น จะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งการรถไฟฯ เชื่อว่าการออกเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดินมีความคลาดเคลื่อน จึงขอให้กรมที่ดินพิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่ในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกทับซ้อนที่ดิน การรถไฟฯ ซึ่งมีคำร้องไปยังศาลปกครอง ขอให้มีกระบวนการวินิจฉัยในเรื่องนี้ และศาลรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว จากนี้รอคำวินิจฉัยที่พร้อมปฏิบัติตาม พร้อมเตือนว่าการอภิปรายต้องระวังเรื่องของการละเมิดอำนาจศาลด้วย
สำหรับประเด็นขายหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นนิติกรรมอำพราง มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าเป็นการซื้อขายที่ไม่มีหลักฐานในการชำระเงินจริงเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการได้ประโยชน์จากการลงทุนของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่นในการรับเหมาโครงการของกระทรวงคมนาคม ศักดิ์สยามกล่าวว่ามีการซื้อขายหุ้นจริง และรับโอนเงิน 3 ครั้ง รวม 119 ล้านบาท
แต่นับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2561 ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจบริษัทดังกล่าว ขณะที่เงินที่ได้รับจากการขายหุ้นก็ได้นำไปชำระหนี้ส่วนตัวและหนี้สินทางธุรกิจแล้ว ส่วนที่ไม่ได้ยื่นข้อมูลไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขการยื่น ซึ่งกำหนดไว้ไห้ยื่นเฉพาะกรณีมีการเพิ่มการลงทุน หรือจดใหม่ และการโอนขายหุ้นไม่จำเป็นจะต้องยื่น ส่วนที่ไม่ได้แจ้งข้อมูลในการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากการดำเนินการซื้อขายเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งในปี 2562 และตามกฎหมายให้แจ้งทรัพย์สินที่มีในขณะนั้น
ศักดิ์สยามได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ามีการฮั๊วการประมูลงานของกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากการดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ในการประมูลงานก่อสร้าง หรือวิธีการ e-bidding ผ่านกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งในการดำเนินงานย้ำให้ข้าราชการยึดหลัก 4 ข้อ คือ ต้องเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ถูกต้องตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และรับฟังความเห็นของประชาชน
สำหรับกรณีข้อกล่าวหาการให้งบประมาณกรมทางหลวงจังหวัดบุรีรัมย์มากผิดปกติ ศักดิ์สยามได้แสดงข้อมูลการก่อตั้งรับงบประมาณของทั้ง 2 หน่วยงานย้อนหลัง 10 ปีมาอ้างอิง กล่าวว่าเป็นการขอตั้งรับงบประมาณล่วงหน้า และส่วนตัวไม่ได้มีอำนาจสั่งการให้นำงบไปลงในพื้นที่ใดได้ และ 10 ปีที่ผ่านมา จังหวัดบุรีรัมย์ได้งบประมานจาก 2 หน่วยงานไปลงพื้นที่ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น จะเห็นกราฟการรับงบประมาณไม่ได้มากกว่าจังหวัดอื่น ทั้งจังหวัดนครราชสีมา หรือนครปฐม
ขอยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมพิจารณาจัดสรรงบประมาณโดยพิจารณาถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ส่วนกรณี MR-MAP ที่มีการกล่าวหาว่าเป็นความซ้ำซ้อนในโครงการรถไฟรางคู่ความเร็วสูงและมอเตอร์เวย์จะแย่งผู้โดยสารกันเองนั้น
ศักดิ์สยามชี้แจงว่า ในการดำเนินการเป็นแผนแม่บทที่ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อแก้ไขปัญหาระบบคมนาคมในอดีต สร้างโอกาสโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมประเทศภูมิภาค และวางรากฐานที่ถูกต้อง และการลงทุนจำเป็นให้ภาครัฐ เอกชน หรือนักลงทุนไทย และนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วม ยังไม่ได้คำนวณว่าวงเงินลงทุน 5.7 ล้านล้านบาท ส่วนตัวพร้อมเชิญผู้อภิปรายร่วมประชุมหารือในการวางแผนพัฒนาโครงการดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเคยเชิญมาแล้ว แต่ผู้อภิปรายไม่ได้ร่วม พร้อมย้ำว่าทุกข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง
