ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 กรกฎาคม) ดัชนี SET ระหว่างวันลดลงไปต่ำสุดที่ 1,517.51 จุด ลดลง 19.31 จุด หรือราว 1.1% ทำจุดต่ำใหม่ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยการลดลงระหว่างวันนี้ของหุ้นไทยค่อนข้างอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นเอเชีย ยกเว้นตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงที่ลดลงไปราว 1.5-2.5%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงท้ายของการซื้อ-ขาย และกลับมาปิดตลาดที่ 1,533.37 จุด ลดลง 3.45 จุด หรือ 0.22% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดทำการช่วงบ่าย ตามเวลาไทย ปรับตัวขึ้นได้ราว 1%
ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า แรงกดดันตลาดหุ้นไทยวันนี้มาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง เงินลงทุนที่ไหลออก และแนวโน้มเงินเฟ้อที่ยังสูง
“นักลงทุนในประเทศน่าจะกังวลว่าหากเงินบาทยังอ่อนค่าเช่นนี้ ต่างชาติคงจะยังไม่กลับมา หุ้นไทยเวลานี้ต้องหวังพึ่งต่างชาติ ซึ่งมีสัดส่วนราว 50% ของมูลค่าเทรดเวลานี้”
ขณะที่เงินเฟ้อน่าจะยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาพลังงานจะเริ่มลดลงมาแล้ว แต่ด้วยเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ต้นทุนในการนำเข้าพลังงานของไทยยังสูง ฉะนั้นการจะเห็นเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 5% ก็อาจต้องรอไปถึงปีหน้า
“จุดพีคของเงินเฟ้อน่าจะเป็นไตรมาส 3 แต่ประเด็นที่ต้องจับตาคือ เมื่อผ่านจุดพีคแล้ว เงินเฟ้อจะค้างอยู่ในระดับสูงต่อไปไหม”
ณัฐชาตกล่าวต่อว่า ขณะนี้เราประมาณว่าดัชนี SET น่าจะแย่สุดที่ระดับ 1,460 จุด หากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน โดยอิงจากกำไรตลาดที่ 106.5 บาทต่อหุ้น และดัชนีที่ลดลงมาในระดับ 1,500-1,530 จุด ก็น่าจะเป็นจุดที่ทยอยซื้อได้
“แต่การซื้อตรงนี้เพื่อเล่นรอบเท่านั้น เพราะหากปัญหาเงินเฟ้อยืดออกไปอีกและตัวเลขยังสูงกว่า 5% ตลาดจะยังไม่ใช่ขาขึ้นแน่ๆ สิ่งสำคัญคือเรากำลังเล่นกับ Bear Market Rally จึงกำหนดกลยุทธ์ซื้อเมื่ออ่อนตัว แล้วรอขายที่จุดสมดุล คือบริเวณ 1,580 จุด ตอนนี้อย่างเพิ่งหวังคำใหญ่มาก เพราะเรายังหาจุดกลับตัวของ Fund Flow ไม่เจอ”
ด้าน ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยที่อ่อนแอกว่าภูมิภาคเป็นผลจากส่วนต่างอัตราเบี้ยที่กว้างขึ้น เพราะกว่าไทยจะขึ้นดอกเบี้ยต้องรอไปจนถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ในขณะที่หลายประเทศเริ่มขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ต่างชาติลดพอร์ตลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ถูกเทขายแม้จะไม่ได้มีปัจจัยกดดันเฉพาะตัว ขณะที่นักลงทุนส่วนหนึ่งดูเหมือนจะยังรออยู่วงนอก จนกว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้”
สำหรับแนวโน้มตลาดในสัปดาห์หน้า ดัชนี SET อาจมีจังหวะฟื้นตัวเมื่อเข้าใกล้ระดับ 1,500 จุด เนื่องจากจะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ซึ่งมีโอกาสที่จะเห็นการส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินตึงตัวมากขึ้น และจะช่วยให้เงินดอลลาร์หยุดการแข็งค่า และน่าจะทำให้เงินบาทหยุดการอ่อนค่าได้เช่นกัน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP
