Cherry Magic The Movie คือภาพยนตร์ภาคต่อของซีรีส์ญี่ปุ่นยอดฮิตที่ดัดแปลงมาจากมังงะบอยเลิฟในชื่อเดียวกันของ ยู โทโยตะ โดยได้สองนักแสดงหนุ่มอย่าง เอจิ อาคาโสะ และ เคตะ มาจิดะ กลับมาสวมบทเป็นสองพนักงานออฟฟิศหนุ่มอีกครั้ง
สำหรับเนื้อหาของ Cherry Magic ฉบับซีรีส์ ว่าด้วยเรื่องราวของ อาดาจิ (เอจิ อาคาโสะ) พนักงานบริษัทเครื่องเขียนวัย 30 ปีที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองและไม่กล้าเข้าหาคนอื่นก่อน จึงทำให้เขามีเพื่อนน้อยและยังซิงอีกต่างหาก แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ อาดาจิก็มีพลังวิเศษที่สามารถรับรู้ความคิดของคนอื่นที่เขาแตะต้องตัวได้ซะอย่างนั้น นั่นจึงทำให้เขารู้ว่า คุโรซาวะ (เคตะ มาจิดะ) พนักงานหนุ่มสุดหล่อที่ทำงานบริษัทเดียวกันกำลังแอบหลงรักเขาในระดับที่คลั่งรักสุดๆ และความรักที่อาดาจิได้รับจากคุโรซาวะก็ค่อยๆ ทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมากยิ่งขึ้น จนทั้งคู่ตกลงคบหากันในที่สุด
ส่วนเนื้อหาในฉบับภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวหลังจากที่อาดาจิและคุโรซาวะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขมาได้สักพัก กระทั่งวันหนึ่ง อาดาจิได้รับการเลื่อนตำแหน่งและต้องย้ายไปทำงานที่นางาซากิ จึงทำให้ทั้งคู่ต้องห่างไกลกันถึง 1,200 กิโลเมตร เรื่องราวความรักระยะไกลที่จะมาพิสูจน์ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนจึงเริ่มต้นขึ้น
ต้องขอออกตัวก่อนว่าส่วนตัวผู้เขียนยังไม่เคยได้ดู Cherry Magic ฉบับซีรีส์ที่ออกฉายในปี 2020 มาก่อน ดังนั้นสำหรับเนื้อหาต่อจากนี้จะเป็นมุมมองของผู้เขียนที่มีต่อตัวภาพยนตร์เท่านั้น
ซึ่งดูเหมือนว่าผู้กำกับและทีมสร้างจะมองเห็นถึงช่องว่างที่อาจมีผู้ชมบางส่วนที่ไม่เคยได้ดูฉบับซีรีส์มาก่อน พวกเขาจึงมีการสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์ให้เราได้ทำความเข้าใจคร่าวๆ ก่อนในช่วงต้นเรื่อง และยังมีการนำเสนอเนื้อหาที่สามารถเชื่อมโยงกับผู้ชมทุกกลุ่มได้ไม่ยาก
กล่าวคือแกนกลางสำคัญของภาพยนตร์ที่ผู้ชมจะได้ติดตาม คือเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง อาดาจิ และ คุโรซาวะ ในช่วงเวลาที่พวกเขาเริ่มต้นคบหากันอย่างจริงจัง พวกเขาต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง และพวกเขาได้เรียนรู้และเติบโตจากการข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านั้นอย่างไร
โดยจุดเด่นข้อหนึ่งที่เราชื่นชอบมากๆ คือการผสมผสานรสชาติของความโรแมนติก ดราม่า และคอเมดี้ออกมาได้อย่างกลมกล่อม ทั้งโมเมนต์น่ารักชวนจิกหมอนของอาดาจิและคุโรซาวะที่สร้างรอยยิ้มและหัวเราะให้เราได้ทุกครั้ง พร้อมทั้งเรื่องราวที่ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันข้ามผ่านปมปัญหาต่างๆ ซึ่งพาผู้ชมไปสำรวจแง่มุมความรู้สึกของทั้งคู่ได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะประเด็นพลังวิเศษของอาดาจิที่สามารถรับรู้ความคิดของผู้อื่นได้ ก็ถูกหยิบมาตีความในแง่มุมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อยๆ เข้าใจความหมายของชีวิตคู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
รวมถึงการสะท้อนภาพของแรงกดดันที่คู่รัก LGBTQIA+ ในญี่ปุ่นต้องแบกรับผ่านเรื่องราวของอาดาจิและคุโรซาวะ ก็ยังช่วยเน้นย้ำให้ทุกคนเห็นว่าเราทุกคนล้วนมีสิทธิที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เรารักอย่างเท่าเทียม เพราะไม่ว่าคู่รักของเราจะเป็นเพศไหน ‘ความรัก’ ที่เกิดขึ้นก็ยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านสองนักแสดงนำอย่าง เอจิ อาคาโสะ และ เคตะ มาจิดะ ทั้งคู่ก็สามารถถ่ายทอดมวลอารมณ์ของตัวละครผ่านสีหน้าและแววตา ซึ่งพาให้เราก้าวเข้าไปอยู่ในโลกของพวกเขาเรา จนทำให้เราอยากเอาใจช่วยให้พวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ตลอดทั้งเรื่อง ทั้งความมุ่งมั่นของอาดาจิที่ตัดสินใจย้ายไปทำงานที่นางาซากิเพื่อเป้าหมายสำคัญที่เขาอยากทำให้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องแลกกับการไม่ได้เจอกับคุโรซาวะก็ตาม รวมถึงคุโรซาวะที่ต้องพยายามปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองไว้เพื่อไม่ให้คนที่เขารักต้องกังวล
ในภาพรวมแล้ว Cherry Magic The Movie ถือเป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ที่อบอวลไปด้วยความน่ารักและอบอุ่น ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้เราได้ตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งภาพยนตร์ยังนำเสนอปมปัญหาของสองตัวละครหลักที่สามารถเชื่อมโยงกับเราได้ไม่ยากและชวนให้เรามีความรู้สึกร่วมไปกับทั้งคู่ได้ดีอีกด้วย
Cherry Magic The Movie มีกำหนดเข้าฉาย 13 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
