เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q65 ของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 15 สิงหาคม 2565
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น CPF ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.94%MoM สู่ระดับ 26.75 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 4.87%MoM อยู่ที่ระดับ 1,557.25 จุด
พรีวิวผลประกอบการ 2Q65:
SCBS คาดว่า CPF จะมีกำไรพิเศษ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพ ณ สิ้น 2Q65 จำนวน 1 พันล้านบาท อันเป็นผลมาจากราคาสุกรในเวียดนามและไทยที่สูงขึ้น และกำไรจากการขายเงินลงทุนหลังภาษีจำนวน 500 ล้านบาท
ซึ่งหากตัดรายการพิเศษนี้ออกไป คาดกำไรปกติจะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท ลดลง 19%YoY แต่เพิ่มขึ้น 300%QoQ โดยกำไรปกติที่ลดลง YoY สะท้อนถึงธุรกิจสุกรที่อ่อนแอลง (ราคาสุกรลดลง และ CPF มีสัดส่วนการถือหุ้นใน CPP HK เพิ่มขึ้นหลังจากเพิกถอน CPP HK ออกจากตลาดหุ้นฮ่องกงเสร็จสิ้น) ในจีนและเวียดนาม ซึ่งจะไปหักล้างธุรกิจสัตว์บกในประเทศไทยที่ดีขึ้น ขณะที่กำไรปกติที่เติบโต QoQ สะท้อนถึงธุรกิจสัตว์บกในประเทศไทยที่ดีขึ้น และธุรกิจสุกรในเวียดนามและจีนที่ดีขึ้น
สำหรับรายการสำคัญใน 2Q65
- ราคาสุกรในประเทศ เพิ่มขึ้นสู่ 98 บาทต่อกิโลกรัม (เพิ่มขึ้น 27%YoY และ 3%QoQ) โดยเกิดจากอุปทานที่ตึงตัวจากโรค ASF (โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร) และอุปสงค์ที่ฟื้นตัว
- ราคาไก่เนื้อในประเทศ เพิ่มขึ้นสู่ 41 บาทต่อกิโลกรัม (เพิ่ม 24%YoY และ 4%QoQ) โดยเกิดจากราคาสุกรในประเทศสูง (ผลิตภัณฑ์ทดแทน) อุปสงค์ในประเทศและการส่งออกที่แข็งแกร่ง ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาส่งออกไก่เนื้อจึงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น 10-15%QoQ
- ต้นทุนอาหารสัตว์ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาข้าวโพดในประเทศและราคากากถั่วเหลืองนำเข้าเพิ่มขึ้น 24%YoY และเพิ่มขึ้น 15%YoY ตามลำดับ แต่ราคาสัตว์บกในประเทศปรับขึ้นเร็วกว่าต้นทุนอาหารสัตว์ (ระดับสินค้าคงคลัง 3-4 เดือน) จึงคาดว่ามาร์จิ้นธุรกิจสัตว์บกในประเทศจะกว้างขึ้น YoY ใน 2Q65
- ราคาสุกรในเวียดนาม (ถือหุ้น 82% ในปี 2565 เทียบกับ 65% ในปี 2564) ขยับขึ้น 5%QoQ จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว แต่ลดลง 20%YoY โดยเกิดจากอุปทานสุกรที่เพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์โรค ASF คลี่คลาย
- CTI (ธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์มสุกรในจีน) (ถือหุ้น 26% ในปี 2565 เทียบกับ 18% ในปี 2564) ราคาสุกรในจีนเพิ่มขึ้น 13%QoQ จากการปรับอุปทาน, อุปสงค์ที่ดีขึ้น และการเก็งกำไรในตลาดต่อแนวโน้มราคาที่สูงขึ้น แต่ลดลง 23%YoY โดยเกิดจากอุปทานสุกรที่เพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์โรค ASF คลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก CTI จะเป็นศูนย์ โดยลดลง YoY โดยเกิดจากราคาสุกรที่อ่อนแอลง แต่ดีขึ้น QoQ เนื่องจากกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพอันเป็นผลมาจากราคาสุกรที่สูงขึ้น ซึ่งจะมากเกินพอชดเชยขาดทุนจากการดำเนินงาน
- ธุรกิจในประเทศอื่นๆ คาดว่าการดำเนินงานจะอ่อนแอลง YoY โดยจะมีผลขาดทุนในสหรัฐฯ และแคนาดา เนื่องจากราคาปรับขึ้นช้ากว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และขาดแคลนแรงงานในสหรัฐฯ เป็นเวลานาน ท่ามกลางผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างทรงตัว YoY จากประเทศอื่นๆ
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
SCBS คาดว่าผลประกอบการของ CPF จะปรับตัวดีขึ้นอีกใน 2H65 จากขาดทุนใน 2H64 (ล็อกดาวน์) เพราะราคาสัตว์บกอยู่ในระดับที่สามารถทำกำไรได้ในไทย เวียดนาม และจีน
สำหรับ 3Q65 คาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และฟื้นตัวจากขาดทุนใน 3Q64 (ล็อกดาวน์) เนื่องจากราคาสัตว์บกอยู่ในระดับที่สามารถทำกำไรได้ในไทย เวียดนาม และจีน ใน 3Q65TD และบริษัทจะรับรู้กำไรจากบริษัทร่วม (CPALL และ MAKRO) เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ด้วยราคาสัตว์บกที่แข็งแกร่งกว่า คาดหนุนให้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 8 พันล้านบาท สู่ 1 หมื่นล้านบาท
ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อประมาณการดังกล่าวคือ แรงกดดันเงินเฟ้อต่ออุปสงค์และต้นทุน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น