เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ (5 กรกฎาคม) บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) รายงานกำไรสุทธิ 1QFY65 (มีนาคม-พฤษภาคม 2565) เพิ่มขึ้น 27%QoQ และ 1%YoY สู่ 1.16 พันล้านบาท สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อยู่ 18% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองต่ำกว่าคาด
สำหรับรายการสำคัญในผลประกอบการ 1QFY65 มีดังนี้
- คุณภาพสินทรัพย์: Credit Cost ลดลง 36 bps QoQ สู่ 6.81% อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 43 bps QoQ สู่ 5.3% ส่งผลทำให้ LLR Coverage ลดลงสู่ 219% จาก 247% ณ 4QFY64
- สินเชื่อเติบโต 1.8%QoQ และ 7%YoY
- NIM เพิ่มขึ้น 57 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 62 bps QoQ มากกว่าต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 11 bps QoQ
- Non-NII เพิ่มขึ้น 10%QoQ (เพิ่มขึ้น 28%YoY) โดยได้แรงหนุนจากกำไรจากการขาย NPL
- อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง 134 bps QoQ และ 160 bps YoY อันเป็นผลมาจาก Opex ที่ตึงตัวขึ้น
กระทบอย่างไร:
ในวันนี้ ราคาหุ้น AEONTS ปรับตัวลดลง 3.98%DoD อยู่ที่ระดับ 157.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลดลง 0.28%DoD อยู่ที่ระดับ 1,536.97 จุด
มุมมองต่อผลประกอบการและแนวโน้มปี FY2565:
SCBS ประเมินผลประกอบการ 1QFY65 ของ AEONTS ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกำไร 1QFY65 คิดเป็นสัดส่วน 29% ของประมาณการกำไรเต็มปีที่ 4.0 พันล้านบาท ในขณะที่ 2QFY65 คาดว่ากำไรจะลดลง QoQ (ไม่มีกำไรจากการขาย NPL และตั้งสำรองสูงขึ้น) แต่จะเพิ่มขึ้นแรง YoY (ตั้งสำรองลดลง และ NII เพิ่มขึ้น)
สำหรับผลประกอบการปี FY2565 คาดว่ากำไรจะเติบโต 13% จากแรงหนุนการเติบโตของสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้น และ Credit Cost ที่ลดลง แต่จะมีแรงฉุดรั้งจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อผลประกอบการที่ต้องติดตามคือ
- ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากราคาน้ำมันสูง และ
- ความเสี่ยงด้าน NIM จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาด
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP