วันนี้ (27 มิถุนายน) ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ไม่มีนโยบายการรับฝากหรือใช้เส้นให้นักกีฬาคนใดเข้ามาเป็นนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า ผู้ปกครองถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงินเพื่อที่จะนำลูกชายมาฝากเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย
จากเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านในจังหวัดนครศรีธรรมราชหอบหลักฐานร้องสื่อมวลชน หลังถูกหลอกให้จ่ายเงินค่าเรียนเทควันโดให้ลูกชาย สูญเงินเกือบ 80,000 บาท โดยมีหญิงสาวรายหนึ่งเป็นครูสอนเทควันโดอ้างว่าจะพาเด็กไปเก็บตัวร่วมกับทีมชาติ โดยปลอมแปลงเอกสารรายชื่อของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยนำมาแอบอ้าง โดยนำชื่อลูกชายของผู้เสียหายไปใส่แทนที่ชื่อเด็กรายอื่นเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และอ้างว่าลูกของผู้เสียหายเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมเก็บตัวฝึกซ้อม เพื่อที่จะไปแข่งรุ่นยุวชนและเยาวชนทีมชาติในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยมีการปลอมแปลงเอกสารของทางสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่จะเรียกนักกีฬาเก็บตัวซ้อมในวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2565 โดยเปลี่ยนวันที่เป็นเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม และนำชื่อลูกชายของผู้ร้องเรียนไปใส่แทนชื่อเด็กคนอื่น พร้อมเปลี่ยนชื่อรายการแข่งขันจากอายุ 12-14 ปี เป็นอายุ 11-15 ปี แล้วส่งมาให้ผู้เสียหายดูทางแชตเฟซบุ๊ก ซึ่งผู้ร้องเรียนไม่ได้เอะใจอะไร เพราะเห็นว่าครูคนนี้เป็นโค้ชมานานกว่า 10 ปี และมีสามีรับราชการ จึงยอมหลงเชื่อ
ผศ.พิมลยังได้ยืนยันว่า “ตลอดเกือบ 20 ปีที่ตนเองได้ทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมฯ มานั้น นักกีฬาทีมชาติทุกคนที่เข้ามาสู่ทีมชาติไทย เข้ามาด้วยกระบวนการการคัดเลือกตัว และใช้ฝีมือของตัวเองล้วนๆ
“ทางสมาคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ขณะนี้เราได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่จะนำไปแจ้งความ และผมก็ได้ให้ทาง ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องของสมาคมฯ ติดต่อไปยังผู้ปกครองคนดังกล่าวในการนำหลักฐานมาประกอบ เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป”
นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้เตรียมแจ้งความเอาผิดผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารสมาคมฯ ไปหลอกเอาเงินผู้ปกครองจำนวนเกือบ 80,000 บาท โดยนำชื่อสมาคมฯ ไปหากิน หลอกคนว่าสามารถช่วยให้เด็กติดทีมชาติได้อีกด้วย
