×

สื่อนอกรายงาน Facebook เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้หญิงที่คิดทำแท้งในสหรัฐฯ

16.06.2022
  • LOADING...
Facebook

สื่อต่างประเทศรายงานว่า Facebook ได้เก็บข้อมูลของผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ศูนย์ดูแลการตั้งครรภ์ในภาวะวิกฤต (Crisis Pregnancy Centers: CPCs) ผ่านเครื่องมือการติดตามของบริษัท ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้ล็อกอิน Facebook ก็สามารถเก็บข้อมูลดังกล่าวได้ ทำให้เกิดความกังวลว่าองค์กรที่ต่อต้านการทำแท้งจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้เพื่อเข้าถึงสตรีที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

 

หลักการทำงานของเครื่องมือติดตามข้อมูลของ Facebook คือ เมื่อมีผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง เครื่องมือติดตามของเว็บนั้นๆ จะส่งข้อมูลของผู้เยี่ยมชมไปยัง Facebook ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำมาใช้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพื่อยิงโฆษณา หรือเสนอคอนเท็นต์บนหน้าฟีดตามความสนใจของแต่ละคนได้ โดยรายงานระบุว่า เว็บไซต์ของ CPCs ได้เก็บข้อมูลของผู้ที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ และแชร์ข้อมูลดังกล่าวให้กับ Facebook ด้วย 

 

ต้องเกริ่นให้ทราบก่อนว่า สำหรับในสหรัฐฯ นั้น CPCs เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งมีจุดประสงค์หลักคือการพยายามห้ามหรือโน้มน้าวไม่ให้ผู้หญิงทำแท้งตามหลักความเชื่อทางศาสนา ซึ่งหลายครั้งคลินิกเหล่านี้ได้ให้ข้อมูลด้านเพศศึกษาที่ผิดๆ เพื่อทำให้คนไข้รู้สึกกลัว เช่น บอกว่าการทำแท้งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง หรือพยายามข่มขู่ กดดัน และใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง เพื่อโน้มน้าวผู้หญิงให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะยุติการตั้งครรภ์

 

ข้อมูลจาก Reveal และ The Markup ได้วิเคราะห์เว็บไซต์ CPCs เกือบ 2,500 แห่ง และพบว่าเว็บไซต์เหล่านี้อย่างน้อย 294 แห่งได้แบ่งปันข้อมูลของผู้เยี่ยมชมกับ Facebook ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าบุคคลใดที่กำลังพิจารณาทำแท้ง หรือพยายามขอรับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือขอทดสอบการตั้งครรภ์

 

รายงานระบุว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของเว็บไซต์ดังกล่าวส่งข้อมูลไปยัง Facebook เมื่อมีคนนัดหมายเพื่อให้คำปรึกษาการทำแท้ง หรือการตรวจคัดกรองก่อนการยุติการตั้งครรภ์ และอย่างน้อย 39 เว็บไซต์ส่งข้อมูลส่วนตัวหลายอย่างให้ Facebook เช่น ชื่อ อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนำมาสู่ความวิตกกังวลว่าข้อมูลเหล่านั้นอาจถูกนำไปใช้งานอย่างมิชอบ เช่น อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีรวบรวมรายละเอียดของผู้ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับการทำแท้งและส่งให้กับทางการ เพราะยังมีบางรัฐของสหรัฐฯ ที่ไม่อนุญาตให้สามารถทำแท้งได้อย่างเสรี โดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ อาจพยายามขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น เพื่อลงโทษผู้ที่ต้องการทำแท้งและผู้ให้บริการได้

 

ภายหลังจากที่ข่าวดังกล่าวออกมา เดล โฮแกน (Dale Hogan) โฆษกของ Facebook ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า ระบบของบริษัทมีการกรองข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้งานอยู่แล้ว และการที่แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ต่างๆ จะส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับผู้ใช้งานมาผ่านเครื่องมือทางธุรกิจนั้นก็ผิดกฎของ Facebook ด้วย อย่างไรก็ตาม Facebook ไม่ได้ตอบคำถามอย่างเจาะจงเกี่ยวกับระบบการกรองข้อมูลที่มาจากองค์กร CPCs

 

ทั้งนี้ สิทธิด้านการทำแท้งในสตรีกำลังเป็นประเด็นที่ร้อนแรงในสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้ POLITICO รายงานข่าวโดยอ้างเอกสารความเห็นส่วนใหญ่ที่หลุดออกมาว่า ศาลสูงสหรัฐฯ ได้ลงคะแนนเสียงให้ยกเลิกกฎหมาย Roe v. Wade ที่คุ้มครองสิทธิการทำแท้งของสตรี ซึ่งตามกฎหมายดังกล่าวนั้น สตรีจะได้รับอนุญาตให้สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในช่วง 6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ โดยกระแสข่าวดังกล่าวได้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วประเทศ อีกทั้งการที่มีเอกสารรั่วไหลออกมาจากศาลยังเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างยิ่ง

 

แฟ้มภาพ: Syda Productions Via Shutterstocka

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X