วันนี้ (24 พฤษภาคม) นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งผลปรากฏว่าผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคได้รับเลือกตั้ง 9 คน
นิพนธ์กล่าวว่าการที่พรรค ปชป. ได้ ส.ก. จำนวน 9 ที่นั่ง ถือเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ เดิมคิดว่าน่าจะได้ ส.ก. ประมาณ 10 คน แต่ได้มา 9 คนถือว่าใกล้เคียงแล้ว และได้ที่ 2 ใน 4-5 เขต ซึ่งคะแนนห่างกันไม่เยอะ ฉะนั้นเมื่อรวมคะแนน ส.ก. ก็คิดว่าเป็นที่พอใจแล้ว จากเดิมการเลือกตั้งที่ผ่านมาเราไม่มีสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่เลยแม้แต่คนเดียว
ถ้ามาเทียบพื้นที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อจำนวนประชากรและสัดส่วนผู้แทนแล้ว ได้ผู้แทน ส.ก. เกือบครบที่นั่งแล้ว ฉะนั้นจากที่พรรค ปชป. ไม่มี ส.ส. อยู่เลย ถ้าเรานำตัวเลข 9 เขตของ ส.ก. เป็นคะแนน ส.ส. เทียบเปอร์เซ็นต์กัน เราก็น่าจะได้ ส.ส. กทม. อยู่ที่ 6 เขต ฉะนั้นก็ถือว่าพอใจแล้ว และต้องยอมรับว่าการตัดสินเลือกของประชาชน เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจ ส่วนทางยุทธศาสตร์คะแนนจะเป็นอย่างไรก็ไปวิเคราะห์กันอีกทีหนึ่ง แต่ถามว่าพอใจหรือไม่ก็ต้องพอใจในสิ่งที่ประชาชนมอบให้แล้ว
สำหรับคะแนนในส่วนของฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลรวมกันได้ 30 กว่าที่นั่งนั้น นิพนธ์กล่าวว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนไม่ว่าจะกี่ที่นั่ง แต่เมื่อไปดูตัวเลขสัดส่วนแล้ว พรรค ปชป. ได้ตัวเลขมากขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับ ส.ส.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการปรับยุทธศาสตร์หรือวางบทบาทใหม่ อย่างไรหรือไม่ นิพนธ์กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (23 พฤษภาคม) องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งดูแล กทม. ได้สรุปให้ทราบถึงสถานการณ์ ปัญหา แนวทาง และเราจะได้แนวทางที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ส.ส. ต่อไป ซึ่งก็เหมือนเราได้ลงสนามจริง ได้ซ้อมแล้ว รู้แล้วว่าจุดอ่อน-จุดแข็งเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นิพนธ์ระบุว่าไม่มีปัญหาอะไรหากต้องทำงานร่วมกัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมกล่าวว่าเมื่อประชาชนตัดสินใจเลือก เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจ และการทำงานกับท้องถิ่น ซึ่ง กทม. ก็ถือเป็นท้องถิ่นหนึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำกับดูแล กทม. อยู่แล้ว ฉะนั้นอะไรที่เป็นนโยบายที่ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศไว้ ก็ดำเนินการได้ ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมายมีสิทธิทำอยู่แล้ว