รัสเซียยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 3 ลูกถล่มสถานีไฟฟ้าย่อยหลายแห่งในเมืองลวีฟ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของยูเครน ใกล้กับชายแดนโปแลนด์เมื่อช่วงคืนวานนี้ (3 พฤษภาคม) ส่งผลให้หลายพื้นที่ของเมืองขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำสะอาดใช้งาน
เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าการโจมตีของรัสเซียครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะทำลายเครือข่ายทางรถไฟของยูเครน ขณะที่สถานการณ์ในเมืองเกิดความโกลาหลอย่างมาก เนื่องจากประชาชนได้ออกมาเดินอยู่ตามท้องถนนหลังจากที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป
สำนักข่าว BBC รายงานว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นถือเป็นการยิงขีปนาวุธถล่มภาคตะวันตกของยูเครนครั้งแรกในรอบกว่า 1 สัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้รัสเซียเคยวางแผนที่จะทำลายเครือข่ายทางรถไฟของยูเครนมาแล้ว เนื่องจากต้องการตัดช่องทางการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์จากภาคตะวันตกไปยังทางตะวันออกของประเทศ
อนึ่ง การส่งสรรพาวุธไปช่วยเสริมกำลังรบที่อยู่แนวหน้าของยูเครนนั้นเป็นปฏิบัติการที่สำคัญอย่างมาก โดยเมื่อคืนที่ผ่านมายูเครนอ้างว่ารัสเซียเปิดฉากระดมยิงคนงานในโรงงานที่เมืองอัฟดีฟกา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์
นอกจากนี้ยังมีการทิ้งระเบิดถล่มโรงงานเหล็กอาซอฟสตาลในเมืองมาริอูโปล ซึ่งยังมีประชาชนราว 200 คนหลบภัยอยู่ที่นั่น
ทั้งนี้ ทางการยูเครนกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะจัดตั้งระเบียงทางมนุษยธรรม (Humanitarian Corridor) ขึ้นใหม่ เพื่อเปิดเส้นทางให้พลเรือนสามารถอพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเคลื่อนย้ายประชาชนราว 100 คนออกจากเมืองเมื่อวานนี้
ภาพ: Omar Marques / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: