เมื่อพูดถึงเรื่องสถานการณ์โควิด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเผลอแป๊บเดียวเราได้ผ่านวิกฤตและอยู่ร่วมกันกับโควิดมาได้นานกว่า 2 ปีแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ THE STANDARD ได้มีโอกาสชมมิวสิกวิดีโอเพลงหนึ่งแล้วรู้สึกประทับใจมาก เพราะนอกจากจะไพเราะแล้ว เรายังรู้สึกว่าเนื้อหาดีๆ ใน MV นี้ยังส่งพลังบวกและกำลังใจให้ได้อย่างมากมาย จึงอยากจะมาบอกเล่าเก้าสิบให้ทุกคนได้ลองไปติดตามฟังกัน และบทเพลงที่เราพูดถึงก็คือ ‘ลมหายใจเดียวกัน’ นั่นเอง
เรื่องราวซาบซึ้งกินใจ: อยู่ในประสบการณ์ร่วมของคนไทยทุกคน
“ค่อยๆ คิด ค่อยๆ นึก ค่อยๆ นับ เราเจออะไรกันมาบ้าง
ค่อยๆ มองและก็ค่อยๆ ทบทวนความทรงจำเรื่องวันวาน”
MV เพลง ลมหายใจเดียวกัน เริ่มต้นด้วยการฉายภาพชีวิตของผู้คนเมื่อเกิดโรคติดต่อโควิด-19 ตั้งคำถามชวนให้ระลึกถึงช่วงเวลาของวิกฤตที่ผ่านมา ว่าเราได้พบเจอกับอุปสรรคอะไรกันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ทุกคนไม่สามารถใช้ชีวิตกันได้อย่างปกติเหมือนก่อน ด้วยผลกระทบจากโรคระบาดทำให้ห้องเรียนนั้นว่างเปล่า นักเรียนไม่สามารถที่จะไปโรงเรียนกันได้เพราะสถานศึกษาจำเป็นต้องปิด ผู้คนหาเช้ากินค่ำหลากหลายอาชีพก็ไม่สามารถที่จะทำงานหาเลี้ยงชีพกันได้เหมือนปกติที่ผ่านมา สนามกีฬาทิ้งร้าง ร้านรวงก็ปิดเงียบเพราะไม่มีผู้คนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือรวมตัวกันได้ เพราะต้องรักษาระยะห่างเพื่อป้องกันการติดเชื้อ กระทั่งถนนหนทางและห้างสรรพสินค้าก็ยังร้างไร้ผู้คน ซึ่งทำให้เรานึกถึงช่วงที่เกิดวิกฤตโควิดขึ้นในระยะแรกๆ ซึ่งทุกคนยังไม่ทันตั้งตัวและยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นดังฝันร้าย แน่นอนว่าแทบทุกชีวิตล้วนได้รับผลกระทบจากโควิดกันอย่างจังถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิตและสภาพเศรษฐกิจ มีทั้งคนติดโรคและไม่มีงานทำ จนหลายคนอาจจะต้องเผชิญกับความหมองหม่นสิ้นหวังกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งภาพต่างๆ ที่ฉายให้เห็นใน MV นี้ล้วนเป็นประสบการณ์ที่คนไทยแทบทุกคนต่างเข้าถึงและเข้าใจกันได้โดยไม่ยาก เพราะเป็นประสบการณ์ร่วมของคนไทยเลยก็ว่าได้
ช่วงแรกของ MV ฉายภาพชวนให้นึกถึงผลกระทบ และความหมองหม่นสิ้นหวัง
จากสถานการณ์โควิดในระยะแรก ซึ่งทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว
ฟันฝ่ากันจนพ้นวิกฤต: ด้วยความร่วมมือร่วมใจ
“แต่ก็ยังมีฉันกับเธอ เราที่จะยังเดินไปด้วยกัน
มือคอยกุมมือ และดวงใจคอยคล้องใจ
ต้องเดินไปถึงจุดหมายสักวัน”
หลังจากภาพของวิกฤตในช่วงแรก ในพาร์ตถัดมาของ MV เพลง ลมหายใจเดียวกัน นั้นได้ฉายให้เห็นถึงภาพที่ผู้คนทุกภาคส่วนต่างลุกขึ้นมาร่วมกันเผชิญหน้าช่วยกันแก้ไขปัญหาฝ่าวิกฤตโควิด ไม่ว่าจะเป็น เหล่าฮีโร่ในชุดขาว บุคลากรทางการแพทย์ที่ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างแข็งขันแม้จะเหน็ดเหนื่อย เรายังได้เห็นภาพคนธรรมดาทั่วไปต่างก็พยายามลุกขึ้นมาช่วยกันปรับตัวและป้องกันไม่ให้ตัวเองและคนอื่นๆ ต้องติดเชื้อด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งหมั่นล้างมือ รักษาระยะห่างทางสังคม ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นแบบ ‘Contactless’ หรือไร้การสัมผัส ทั้งการชำระเงิน และการทำงานแบบ Work from Home ผู้ประกอบการต่างๆ เองก็ลุกขึ้นมาปฏิบัติตามนโยบาย Social Distancing ต่างๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อจำกัดจำนวนผู้ติดเชื้อ จนกลายเป็นวิถีชีวิตแบบ ‘New Normal’ ไปจนถึงการเร่งฉีดวัคซีนที่ได้รับความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนที่ร่วมมือกับรัฐบาลแบ่งเบาวิกฤตปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคอุปกรณ์จำเป็นทางการแพทย์ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อเพิ่มขีดจำกัดทางสาธารณะสุขให้กับประเทศ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกภาพที่เกิดขึ้นใน MV นี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา
ในพาร์ตต่อมาของ MV นี้ เราได้เห็นภาพคนไทยทุกภาคส่วนต่างก็ร่วมแรงกันคนละเล็กละน้อย ปฏิบัติตามวิถี New Normal ร่วมกันเป็นพลังก้าวผ่านอุปสรรคในยุคโควิด
พลังไทยที่เรารัก: เพราะคนไทยลมหายใจเดียวกัน
จนมาถึงท่องฮุคของบทเพลง MV นี้ ยังได้ฉายภาพสุดประทับใจที่เฉลยให้เห็นถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตมาได้ นั้่นคือ ‘ความเป็นคนไทย’ และ ‘ความรักในประเทศไทย’ ที่หลอมรวมทุกคนเอาไว้ด้วยกัน จะว่าไปแล้วสิ่งที่เราเห็นผ่าน MV เพลง ลมหายใจเดียวกัน เองนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงสักเท่าไรเลย
MV เพลงนี้ยังได้ฉายภาพสุดซึ้งที่เฉลยให้เห็นถึงสิ่งที่หลอมรวมทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน นั่นก็คือ ‘ความสามัคคี’ และ ‘ความรักในประเทศไทย’
เพราะที่ผ่านมาเราต่างได้ประจักษ์โดยไม่มีข้อกังขากันแล้วว่าหากคนไทยทุกคนต่างจับมือกันรวมพลังแม้จะเป็นคนละเล็กละน้อย แต่เมื่อพลังไทยของทุกคนรวมกันก็สามารถกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านพ้นวิกฤตกันมาได้ ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็สามารถพูดได้ว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
นับเป็น MV บทเพลงไพเราะที่มีเนื้อหาตรงกับใจของใครหลายๆ คน ชวนให้ระลึกถึงเรื่องราวการก้าวผ่านวิกฤตที่พวกเราคนไทยทุกคนต่างก็ร่วมฟันผ่าผ่านมาด้วยกัน มอบทั้งพลังบวก ความหวัง และกำลังใจให้ได้ไม่น้อยเลย ซึ่ง THE STANDARD ยังรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้รู้ในภายหลังว่าบทเพลง ลมหายใจเดียวกัน นี้หาใช่เพลงที่แต่งใหม่แต่อย่างใด ทว่าเป็นเพลงเก่าที่แต่งขึ้นเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วเลยทีเดียว!
บทเพลง ลมหายใจเดียวกัน อันแสนไพเราะและความหมายดีนี้แต่งโดยคนดนตรีชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเดิมเป็นเพลงเก่าที่ใช้กันเฉพาะภายในองค์กรของกลุ่ม ปตท. มากว่า 10 ปีแล้ว! ทว่าเมื่อนำมาคัฟเวอร์ใหม่ใน พ.ศ. นี้ จึงได้นำนักร้องที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักทั้งสองยุคสมัยมาร่วมกันขับร้องใหม่ได้อย่างลงตัว และเมื่อล้อเข้ากับภาพของสถานการณ์โควิดอย่างที่เห็นใน MV เรากลับพบว่าเพลงนี้ยังคงมีเนื้อหาร่วมสมัย บอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกร่วมของคนไทยที่เพิ่งร่วมฟันฝ่าวิกฤตสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาได้ดีเหลือเกิน ซึ่งเมื่อพูดถึงกลุ่ม ปตท. นั้นก็ได้ร่วมเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยบรรเทาวิกฤตให้กับพี่น้องชาวไทย ผ่านโครงการที่มีชื่อว่า ‘ลมหายใจเดียวกัน’ เช่นเดียวกับชื่อเพลงด้วย
ในวาระที่คนไทยเราร่วมฟันฝ่าวิกฤตกันมาได้กว่า 2 ปี นี่จึงเป็นอีกบทเพลงหนึ่งที่เราขอชวนให้ทุกคนได้ร่วมรับชมและฟังกัน เพราะเป็นบทเพลงที่เปี่ยมไปด้วยพลังบวก มอบทั้งความหวังและกำลังใจ และไม่ว่าในอนาคตนั้นจะมีวิกฤตอะไรรออยู่ แต่หากคนไทยที่มีลมหายใจเดียวกันร่วมมือร่วมแรงกัน…เราย่อมจะฝ่าฟันทุกปัญหาไปได้แน่นอน
คลิกชม MV ลมหายใจเดียวกัน
โครงการ ‘ลมหายใจเดียวกัน’
- คงไม่มีใครทราบมาก่อนว่าโครงการลมหายใจเดียวกัน เป็นแนวคิดที่มาจากผู้นำองค์กรอย่างซีอีโอของ ปตท. ‘อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์’ ที่เชี่ยวชาญทั้งทางด้านการดำเนินธุรกิจ และมีความคิดในการช่วยเหลือสังคม เพราะเป็นผู้ริเริ่มโครงการลมหายใจเดียวกันด้วยตนเอง จนต่อยอดมาเป็นการสื่อสารผ่าน MV ลมหายใจเดียวกัน
- ‘โครงการลมหายใจเดียวกัน’ ซึ่งจัดตั้งโดย กลุ่ม ปตท. ได้สนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และเทคโนโลยีที่จำเป็น ร่วมจัดตั้งหน่วยวัคซีนเคลื่อนที่เชิงรุก จนถึงหน่วยคัดกรองโควิด-19 และโรงพยาบาลสนามครบวงจรต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังในการร่วมขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติให้คนไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน