วันนี้ (21 มีนาคม) ทางการยูเครนปฏิเสธข้อเสนอของทางการรัสเซีย ที่เรียกร้องให้กองกำลังและประชาชนในเมืองมารีอูปอล หนึ่งในเมืองท่ายุทธศาสตร์ที่สำคัญ วางอาวุธและยอมจำนนต่อกองทัพรัสเซีย เพื่อแลกกับการเปิดพื้นที่อพยพและเปิดเส้นทางส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
โดยทางการรัสเซียจะอนุญาตให้ประชาชนที่คาดว่าจะติดอยู่ในเมืองมารีอูปอลราว 3 แสนราย เดินทางอพยพออกจากเมืองได้ หากยอมจำนนต่อกองทัพรัสเซียภายในเวลา 05.00 น. ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น
ทางด้าน อิรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครน ระบุว่า ยูเครนจะไม่ยุติการปกป้องเมืองมารีอูปอล ไม่มีทางที่จะยอมแพ้และวางอาวุธลง โดยยูเครนจะสู้จนถึงที่สุด
เมืองมารีอูปอลถือเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพรัสเซียต้องการที่จะยึดครอง เนื่องจากเมืองดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณทะเลอะซอฟ เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการสร้างเส้นทางบนดินระหว่างโดเนตสก์และลูฮันสก์ สองแคว้นทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่ได้รับการรับรองเอกราชโดยรัฐบาลรัสเซียเมื่อราว 1 เดือนก่อน
โดยก่อนหน้านี้ทางการยูเครนมีความพยายามที่จะอพยพชาวเมืองมารีอูปอลออกจากเมือง แต่ไฟสงครามจากกองทัพรัสเซียที่โจมตีและขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเหตุให้การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ผู้คนในเมืองต่างกำลังเผชิญหน้ากับภาวะคลาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค เชื่อว่าราว 90% ของสาธารณูปโภคในเมืองดังกล่าวได้รับความเสียหายจากสงคราม ทางการเผย มีชาวเมืองราว 4,000 รายอยยพออกจากมารีอูปอลไปยังซาปอริซเซียเมื่อวานที่ผ่านมา โดยรัฐบาลยูเครนเตรียมจัดสรรรถบัส 50 คัน รองรับผู้อพยพลี้ภัยออกจากเมืองดังกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัสเซียที่ต้องการให้เกิดหายนะทางด้านมนุษยธรรมในยูเครน
ภาพ: Stringer / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: