สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ (16 มีนาคม) โดยเตือนจีนว่าอาจเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ หากสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามบุกยูเครน พร้อมทั้งชี้ว่าการสนับสนุนทางทหารแก่รัสเซียนั้นเป็น ‘สิ่งที่น่ารังเกียจ’
ท่าทีของมอร์ริสันมีขึ้นหลังจากผู้สื่อข่าวถามเขาว่า “ในการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของออสเตรเลียจะมีการพิจารณามาตรการคว่ำบาตรจีนจากกรณีนิ่งเฉยต่อการกระทำของรัสเซียหรือไม่?”
ซึ่งมอร์ริสันให้คำตอบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียนั้นขาดความโปร่งใสอย่างแท้จริง
“สิ่งหนึ่งที่รบกวนจิตใจผมตั้งแต่เริ่มแรก นอกจากสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในแง่ของการรุกรานยูเครนอย่างรุนแรงและผิดกฎหมายของรัสเซียแล้ว ก็คือความเงียบงันอันเยือกเย็นที่เราเห็นจากจีน ตอนนี้ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ของโลกกำลังคว่ำบาตรรัสเซีย และหาทางให้พวกเขาชดใช้อย่างหนักจากการใช้ความรุนแรงและการกระทำที่รุกราน จีนกลับผ่อนคลายข้อจำกัดทางการค้าหรือมาตรการทางการค้าต่างๆ กับรัสเซีย เช่น ข้าวสาลี ซึ่งถือเป็นการส่งข้อความที่น่ากลัว” มอร์ริสันกล่าว
ขณะที่เขาเตือนว่า “การขาดความโปร่งใสในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียถือเป็นปัญหาใหญ่ของภูมิภาค” และเรียกร้องให้จีนแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้
“ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับรัสเซียคืออะไร เมื่อมีการโยนเชือกกู้ชีพทางเศรษฐกิจให้กับพวกเขาในช่วงวิกฤตโลกนี้ และสิ่งที่เป็นไปได้คือ หากมีการพูดคุยถึงการสนับสนุนทางทหารสำหรับรัสเซีย นั่นจะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ”
ผู้นำออสเตรเลียยังประกาศว่าออสเตรเลียจะดำเนินการสอดคล้องกับชาติพันธมิตรในประเด็นการคว่ำบาตร และชี้ว่าสหรัฐฯ ได้แสดงความชัดเจนอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และออสเตรเลียสนับสนุนท่าทีเหล่านั้น
“เราจะเคลื่อนไหวสอดคล้องกับหุ้นส่วนและพันธมิตรของเราในประเด็นนี้ สหรัฐฯ ได้ส่งข้อความที่ชัดเจนอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเราสนับสนุนข้อความเหล่านั้น และสนับสนุนพวกเขา เพราะเราคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งโลกต้องร่วมมือกันเพื่อยุติความรุนแรงและการรุกรานอันเลวร้ายของรัสเซียในยูเครน” มอร์ริสันกล่าว
ขณะที่เขาชี้ว่าไม่มีความเท่าเทียมกันสำหรับเรื่องนี้ หลังจากที่จีนแสดงตัวเหมือนจะอยู่ตรงกลางระหว่างข้อเรียกร้องทั้งของยูเครนและรัสเซีย
“ไม่มีความเท่าเทียมกัน ส่วนที่เหลือของโลกไม่ได้หันเหไปตามนั้น”
ภาพ: Photo by Matt Jelonek /Getty Images
อ้างอิง: