บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) ซึ่งประกอบธุรกิจหลักคือ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ เอทานอล ไบโอดีเซล รวมถึงธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูงที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ล่าสุดเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยภายใต้ดัชนี SET ในวันนี้ (17 มีนาคม) เป็นวันแรก โดยเปิดการซื้อขายที่ 10.10 บาท ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 10.50 บาท หรือลดลง 3.81% ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ 10.50 บาท ได้ในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.
BBGI ถือเป็นหุ้น IPO ตัวแรกของปีนี้ที่ราคาหุ้นเปิดการซื้อขายต่ำกว่าราคาจองซื้อ หลังจากที่ IPO ก่อนหน้านี้ 4 ตัว ได้แก่ PEACE, CIVIL, TKC และ PTC สามารถเปิดการซื้อขายสูงกว่าราคา IPO ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ส่วนของ CIVIL นั้นราคาปิดของวันแรกพลิกกลับมาต่ำกว่าราคา IPO โดยลดลง 2.17%
ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET พุ่งกลับขึ้นมาแตะระดับ 1,685 จุด เพิ่มขึ้นราว 0.9% หรือ 17 จุด จากวันก่อนหน้า นำโดยหุ้น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และสื่อสาร
บล.เอเซียพลัส มองว่า ผลประชุม Fed ออกมาตามคาดคือ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ส่วนการลดขนาดงบดุล คาดว่าจะเริ่มพิจารณาในการประชุมรอบเดือนพฤษภาคม 2565 ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะยังไม่เห็นการปฏิบัติการเชิงรุกในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ส่วนสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย เห็นโอกาสที่จะนำไปสู่จุดยุติการสู้รบผ่านเวทีการเจรจามากขึ้น ภาพดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็น Sentiment บวกที่ส่งมายังตลาดหุ้นไทยวันนี้
สำหรับประเด็นในประเทศที่น่าจับตาเป็นเรื่องการประชุม ศบค. วันศุกร์นี้ ที่จะมีการพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์ Test & Go หนุนภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ ธปท. แสดงท่าที่คงอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจ
หุ้นที่คาดว่าจะโดดเด่นกว่าตลาดและน่าจะเห็นต่างชาติทยอยซื้อสะสมมากขึ้นในช่วงเวลาต่อจากนี้คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวจากสงครามลดน้อยลง กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หลังความกังวลเงินเฟ้อและผลกระทบต่อคำสั่งซื้อลดน้อยลง และกลุ่มที่อิงกับการท่องเที่ยว
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ (17 มีนาคม) สามารถปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี นำโดยตลาดหุ้นฮ่องกงและญี่ปุ่นที่ดัชนีอย่าง Hang Seng และ Nikkei 225 ปรับตัวขึ้นได้ 6% และ 3% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นจีนอย่างดัชนี China A50 ก็ปรับตัวขึ้นได้ 3.5% เช่นกัน
ในส่วนของตลาดหุ้นฮ่องกงและจีน ก่อนหน้านี้ถูกกดดันจากความกังวลในหลายปัจจัย เช่น การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ หรือความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรสืบเนื่องจากประเด็นระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมไปถึงการที่หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ อาจถูกถอดออกจากตลาด
แต่ล่าสุดวานนี้หลังจากทางการจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ทำให้ดัชนีของทั้งหุ้นจีนและฮ่องกงดีดกลับอย่างรวดเร็ว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP