วันนี้ (4 มีนาคม) สมาคมนิวเคลียร์อเมริกันเรียกร้องให้กองกำลังทั้งหมดในยูเครนยุติปฏิบัติการทางทหารใกล้เขตพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลังมีกระแสข่าวหวั่นอาจเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ จากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย หนึ่งในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ตั้งอยู่ที่เมืองแอแนร์ฮอดาร์ของยูเครน ตกเป็นเป้าโจมตีของกองทัพรัสเซีย และเกิดไฟไหม้ในพื้นที่ใกล้เคียง
ทางด้านโฆษกของโรงไฟฟ้าเผยว่า การต่อสู้บริเวณใกล้เคียงได้คลี่คลายลงแล้วและระดับความเข้มข้นของรังสีก็อยู่ในระดับปกติ ทางการยูเครนรายงานสถานการณ์เบื้องต้นต่อทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ว่า อุปกรณ์สำคัญภายในโรงไฟฟ้าดังกล่าว ยังไม่ได้รับความเสียหายจากเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่ในขณะนี้
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกาที่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน ก็ร่วมกันเรียกร้องให้รัสเซียยุติฏิบัติการทางทหาร และปิดพื้นที่ให้นักดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้โดยเร็ว
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซียมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 6 จาก 15 เตาทั่วทั้งยูเครน เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟที่สำคัญของประเทศ กำลังไฟราว 1 ใน 5 ที่ใช้ทั่วทั้งยูเครน ผลิตจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้
ภาพ: Ihor Bondarenko / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/europe/live-news/ukraine-russia-putin-news-03-03-22/index.html
- https://www.reuters.com/markets/europe/top-wrap-1-europes-largest-nuclear-power-plant-fire-after-russian-attack-mayor-2022-03-04/
- https://www.theguardian.com/world/2022/mar/04/ukraine-nuclear-power-plant-fire-zaporizhzhia-russian-shelling
- ก่อนหน้านี้ยูเครน (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตในขณะนั้น) เคยเผชิญหน้ากับเหตุภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน 1986 หรือราว 35 ปีก่อน สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบอย่างหนักในช่วงเวลานั้น นับเป็นอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่มีระดับความรุนแรงตามมาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ (INES) สูงสุดระดับที่ 7 (Major Accident)