ธนาคารกลางยูเครนระงับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้คนหันมาใช้ ‘คริปโต’ แทนเงินสดมากขึ้น

ธนาคารกลางยูเครนได้ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ออกเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ระงับการออก e-Money และการเติมเงิน ซึ่งถูกตีความว่าจะหมายถึงเงินที่ถืออยู่ในบัญชีดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม เช่น Venmo หรือ PayPal

นี่เป็นหนึ่งในกฎใหม่มากมายที่ธนาคารกลางประกาศใช้เมื่อกองกำลังรัสเซียปิดล้อมยูเครน นอกจากกฎที่ว่ามาแล้วยังมีคำสั่งให้ระงับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จำกัดการถอนเงินสด และถอดเงินสกุลต่างประเทศ

คำสั่งดังกล่าวทำให้ชาวยูเครนบางคนหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลแทนเงินสด โดย Kuna ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนยอดนิยมของยูเครนเผยถึงแนวโน้มที่ผู้คนกำลังสนใจเหรียญ USDT ที่ผูกติดอยู่กับราคาดอลลาร์สหรัฐ

“เราไม่ไว้วางใจรัฐบาล เราไม่ไว้วางใจระบบธนาคาร เราไม่เชื่อถือสกุลเงินท้องถิ่น” ไมเคิล โชบาเนียน ผู้ก่อตั้ง Kuna กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CoinDesk “คนส่วนใหญ่ไม่มีอะไรให้เลือกนอกจากคริปโต”

USDT เป็นหนึ่งในเงินสกุลดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีมูลค่าราคาตลาดอยู่ที่เกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันยังแตกต่างจากเหรียญอื่นๆ อย่าง Bitcoin และ Ethereum ที่เคยประสบกับความผันผวนอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันราคา 1 USDT อยู่ที่ประมาณ 32 ฮริฟเนียยูเครน (สกุลเงินประจำชาติ) หรือ 1.10 ดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น

โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ลงนามในกฎหมายในปี 2021 ซึ่งปูทางให้ธนาคารกลางออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง และเมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีและรัฐสภาได้บรรลุข้อตกลงทำให้เกิดการควบคุมและทำให้เงินดิจิทัลถูกกฎหมาย

ในการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2021 เซเลนสกีกล่าวเกี่ยวกับ ‘นวัตกรรมทางกฎหมายสำหรับตลาดสินทรัพย์เสมือนจริง’ ที่กำลังเติบโตของยูเครนว่าเป็นจุดขายสำหรับการลงทุน และยูเครนกำลังปรับปรุงตลาดการชำระเงินให้ทันสมัยเพื่อธนาคารแห่งชาติจะได้สามารถออกสกุลเงินดิจิทัลได้

ก่อนการโจมตีของรัสเซีย ยูเครนมีแผนที่จะเปิดตลาดสกุลเงินดิจิทัลให้กับธุรกิจและนักลงทุน กระนั้นดูเหมือนว่าตอนนี้ความพยายามดังกล่าวอาจจะต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อ้างอิง: