อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ในตลาด NFT ที่ยังใหม่และยังขาดการควบคุม ทั้งการลอกงาน การเสกเงินออกมาจากอากาศ การปั่นราคา และอีกสารพัดอุบายที่จะทำให้ได้เงินมากและเร็วที่สุดไม่ว่าจะสุจริตหรือไม่ เหตุการณ์แปลกเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในปีที่แล้วรวมถึงต้นปีนี้ และด้วยความที่ตลาดนี้วิวัฒนาการไปเร็วเกินกว่าที่ใครจะเข้าถึงและวิ่งตามได้ทัน มันก็ยากที่กฎหมายจะไล่เขียนกฎข้อบังคับต่างๆ ดังนั้นเราลองมาสำรวจเรื่องประหลาดๆ ในวงการนี้กันหน่อยว่า ที่ผ่านมามีการฉีกกรอบอะไรไปบ้าง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และในอนาคตจะมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงอีกหรือไม่
เริ่มจากช่วงกลางปีที่แล้ว ความนิยมของคอลเล็กชัน NFT แบบหมื่นชิ้น เช่น Cool Cats, Bored Ape Yacht Club, Pudgy Penguins ฯลฯ ทำให้มีคนออกคอลเล็กชันลอกเลียนนับไม่ถ้วน ด้วยสไตล์ ชื่อ และฟังก์ชันที่เหมือนกันมากจนแทบจะแยกไม่ออก เช่น สมมติว่าเป็น CryptoPunks ก็จะมี CryptoPhunks, Lil BabyPunks และอีกหลายหมื่นชุดที่ถูกโคลนออกมา
โปรเจกต์ลอกเลียนเหล่านี้ก็มีชื่อของตัวเองว่า ‘Derivatives’ หมายถึงการแตกกิ่งก้านออกมาจากต้นฉบับ ซึ่งการตีเส้นว่าอะไรคือการละเมิดลิขสิทธิ์ และอะไรคือ Derivatives เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะบางอันเจ้าของโปรเจกต์ก็ปล่อย ในขณะที่บางอันถูกถอน แต่ในการปล่อยก็มีเส้นแบ่งอีกว่าอะไรปล่อยได้และไม่ได้
ปรากฏการณ์ที่เกรียนที่สุดในหมวดหมู่นี้คือ PHAYC ที่เอาภาพของ Bored Ape Yacht Club มาพลิกจากขวาไปซ้ายเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าขายได้แบบถล่มทลายในมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ถึงแม้จะถูกแบนใน OpenSea ด้วยเหตุละเมิดลิขสิทธิ์ และก็ไม่ใช่แค่นี้ เพราะโปรเจกต์ Derivatives อื่นๆ ขายได้หมดเกลี้ยงไปหลายอันแล้ว สาเหตุที่คนนิยมคอลเล็กชันลอกมากกว่าออริจินัล ก็เพราะคอลเล็กชันที่ประสบความสำเร็จมากๆ นั้นล้วนแต่มีราคาที่เกินเอื้อม งานลอกจึงเป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับคอลเล็กชันมากที่สุด เหมือนการถือกระเป๋า Chanel ปลอมนั่นเอง
สิ่งต่อมาที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันคือการ Airdrop เหรียญ SOS ในวันคริสต์มาส ซึ่งไม่ต่างจากการพิมพ์ธนบัตร แต่มีกฎอยู่ว่า จำนวนเหรียญที่จะเคลมได้นั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณเงินและจำนวนครั้งที่เทรดใน OpenSea ดังนั้นยิ่งใช้ OpenSea เยอะ ก็ยิ่งได้เหรียญเยอะ และด้วยความที่มีคนไปเคลมเยอะ ก็ทำให้มูลค่าเหรียญสูงขึ้น จากเดิมที่ไม่มีค่าอะไร สามารถแปลงออกมาเป็นเงินจริง เหตุการณ์นี้ทำให้มีเหรียญอื่นๆ พยายามทำแบบเดียวกัน แต่ก็ไม่มากนักเพราะความซับซ้อนของกลไกที่ทำตามได้ยาก
และแล้วก็มาถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อย่างการ Wash Trading หรือการปั่นราคาด้วยการซื้อขายถี่ๆ จากคนกลุ่มเดิมๆ ในแพลตฟอร์ม NFT ใหม่อย่าง LooksRare ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2022 การปั่นราคาทำให้มูลค่าเทรดสูงไปถึงเกือบ 3 แสนล้านบาท ทั้งที่มูลค่าจริงอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น จากผู้ใช้งานเพียง 25,000 กว่าคน ทำให้ LooksRare ดูเหมือนจะเป็นตลาดที่ใหญ่กว่า OpenSea ทั้งที่ในความเป็นจริงยังถือว่าห่างไกล
เรื่องราวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องผิดกฎหมายร้ายแรงในชีวิตจริง มีโทษถึงขึ้นศาลและติดคุกได้ แต่ในวงการ NFT ที่ยังใหม่และขาดการดูแล ก็ทำให้ใครๆ สามารถทำอะไรก็ได้ การเข้าใจถึงเหตุการณ์นี้จึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เราสามารถปรับตัว รู้เท่าทัน และไม่โดนหลอกในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
อ้างอิง:
- https://www.nftculture.com/nft-news/why-nft-derivative-projects/
- https://www.altcoinbuzz.io/nft/derivative-nft-projects-is-there-value/
- https://www.theverge.com/2021/12/30/22860010/bored-ape-yacht-club-payc-phayc-copycat-nft
- https://decrypt.co/89325/sos-token-aidrop-opendao-opensea-what-you-need-to-know-explainer
- https://cointelegraph.com/news/opendao-sos-looksrare-looks-and-wtf-token-3-airdrops-with-1-scam
- https://cryptonews.com/news/removing-looksrares-usd-83b-wash-trades-opensea-still-dominant-nft-marketplace.htm