วานนี้ (6 กุมภาพันธ์) ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล พร้อมทีมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคก้าวไกลทั้ง 50 เขต ร่วมประชุมเพื่อประกาศความพร้อมการรณรงค์หาเสียงและมอบนโยบายการทำงานในพื้นที่
“จากการทำงานกันอย่างหนักของเพื่อนว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ทุกท่านมาตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าเรามีความพร้อมและรอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะมีการเลือกตั้ง และหวังว่า พล.อ. อนุพงษ์ จะไม่กลับคำ มีเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งผมตั้งใจว่าจะเปิดนโยบายทุกนโยบายให้ครบ และลงพื้นที่กับผู้สมัคร ส.ก. ของผมให้ครบทั้ง 50 เขต ภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนจะมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง” วิโรจน์กล่าวย้ำกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. พรรคก้าวไกล
วิโรจน์กล่าวด้วยว่า การทำงานของผู้ว่าฯ กทม. ไม่สามารถขาด ส.ก. ได้ ต่อให้ผู้ว่าฯ เก่งแค่ไหน ถ้าไม่มี ส.ก. ที่เป็นทีมเดียวกัน ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ หน้าที่สำคัญที่สุดของ ส.ก. มี 2 เรื่อง คือการจัดสรรงบประมาณและทำงานกับประชาชนในพื้นที่
“การจัดสรรงบประมาณของพรรคก้าวไกลต้องเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ใช้งบอย่างตรงไปตรงมา จัดลำดับความสำคัญโครงการ รีดประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณสูงสุด และเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
“ส.ก. คือคนที่ดูแลงบประมาณของกรุงเทพฯ ถ้า ส.ก. ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์คนกรุงเทพฯ การขับเคลื่อนนโยบายมีปัญหาแน่นอน และจะเต็มไปด้วยการต่อรองผลประโยชน์จนผู้ว่าฯ ไม่สามารถทำนโยบายได้”
ส่วนผู้ว่าฯ มีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชน ติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาและรายงานให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผู้ว่าฯ ต้องประสานการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในกรุงเทพฯ และหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในอำนาจของผู้ว่าฯ ไม่ปล่อยให้คนกรุงเทพฯ เผชิญกับปัญหาตามยถากรรม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณและการดำเนินการของ กทม. ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ปราศจากการคอร์รัปชัน ไม่ปล่อยให้นายทุนเอารัดเอาเปรียบคนกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ในฐานะที่พรรคก้าวไกลส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ ในนามพรรค จึงมีจุดแข็งคือ เรามี ส.ส. มีหน้าที่ทบทวนแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ กทม. และมอบอำนาจให้กับผู้ว่าฯ กทม. เพื่อทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
“การทำงานร่วมกันระหว่าง ส.ส.-ส.ก.-ผู้ว่าฯ กทม. คือหัวใจในการแก้ปัญหากรุงเทพฯ ต่อให้เราได้ผู้ว่าฯ ที่เก่งแค่ไหน ถ้าไม่มีลมใต้ปีกจาก ส.ก.-ส.ส. ผมเชื่อว่าผู้ว่าฯ ไม่สามารถชนเพื่อแก้ปัญหาอะไรใน กทม. ได้” วิโรจน์กล่าวทิ้งท้าย