วานนี้ (30 มกราคม) ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง ชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พล.ร.ท. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ พล.ท. พิชัย ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และ พล.ท. ธนวัฒน์ รุจะศิริ พิธีกรภาษาอังกฤษ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการขจัดคราบน้ำมัน กรณีพบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดียวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) พร้อมชี้แจงสถานการณ์ในแต่ละโซนเฝ้าระวัง ดังนี้
– โซน A บริเวณกองพันทหารราบที่ 7 ถึงศูนย์วิจัยกรมประมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร ปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่
– โซน B บริเวณศูนย์วิจัยกรมประมงถึงหาดแม่รำพึง ระยะทาง 2 กิโลเมตร ปัจจุบันมีฟิล์มน้ำมันบางๆ และคราบน้ำมันดิบเล็กน้อย
– โซน C บริเวณหาดแม่รำพึงถึงลานหินขาว ระยะทาง 2 กิโลเมตร ปัจจุบันมีฟิล์มน้ำมันบางๆ บริเวณลานหินขาวถึงเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ระยะทาง 2 กิโลเมตร ปัจจุบันมีฟิล์มน้ำมันบางๆ
– โซน E1 บริเวณเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ยังไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเล
– โซน E2 บริเวณเกาะเสม็ดปัจจุบันไม่มีคราบน้ำมันขึ้นชายฝั่งทะเลในพื้นที่
ส่วนการปฏิบัติงานในพื้นที่วันนี้บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ได้มีการเตรียมเรือไปบริเวณอ่าวเพและเกาะเสม็ดจำนวน 4 ลำ พร้อมกางบูมกั้นหากมีคราบน้ำมันดิบไหลเข้าบริเวณดังกล่าว พร้อมเรือลาดตระเวน 2 ลำ
ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบในพื้นที่ตั้งแต่บริเวณอ่าวเพและเกาะเสม็ดแล้ว ยังไม่มีคราบน้ำมันดิบเข้ามาในพื้นที่ ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ในพื้นที่กลางทะเลเวลานี้ยังไม่มีคราบน้ำมันกลางทะเล มีเพียง Tarball (ก้อนน้ำมันสีดำขนาดเล็ก) ในทะเล
นอกจากนี้ชาญนะยังได้เปิดเผยสถานการณ์ในภาพรวมและทิศทางหลังจากนี้ ระบุว่า จากการสำรวจเช้าวันที่ 30 มกราคม อากาศยานพบคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบางๆ กระจายตัวในทะเล บางส่วนเคลื่อนตัวไปทางแหลมแม่พิมพ์และหาดแม่รำพึง หินดำ บางส่วนอาจไปถึงเขาแหลมหญ้าและเกาะเสม็ด
ส่วนผลการปฏิบัติการ 4 วัน ยังคงดำเนินตามแผน ที่กำหนดไว้เป็นความรุนแรงระดับ 2 มีการโปรยสารทั้งจากทางเรือและทางอากาศ เมื่อมีคราบน้ำมันขึ้นฝั่งจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเก็บคราบน้ำมัน โดยเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกองทัพเรือ, นาวิกโยธิน, บริษัท SPRC และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อีกกี่วันคราบน้ำมันจะหมด ชาญนะบอกว่า ขณะนี้น้ำมันที่ยังค้างในทะเลหากทำปฏิกิริยากับสารขจัดคราบน้ำมันแล้วจะย่อยสลายภายใน 8-10 วัน จะกลายเป็นคราบคาร์บอน ส่วนที่เป็นฟิล์มบางๆ บางส่วนอาจระเหยไป ส่วนที่ขึ้นฝั่งก็จะถูกนำไปกำจัดและจะมีการทำความสะอาดชายหาดบริเวณดังกล่าวโดยเร็ว คาดว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์จะเหลือคราบน้ำมันในปริมาณที่น้อยมาก
ส่วนกรณีข่าวการสั่งปิดหาดแม่รำพึง ชาญนะยืนยันว่าทางจังหวัดไม่ได้มีคำสั่งปิดหาดแต่อย่างใด ส่วนที่ดำเนินการคือ การประกาศพื้นที่ภัยพิบัติและการขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงเส้นทางริมชายหาด เนื่องจากมีการปฏิบัติการทำความสะอาดชายหาด ทำให้การจราจรหนาแน่น ส่วนร้านค้าริมชายหาดทางจังหวัดขอความร่วมมือให้ปิดร้านกรณีพบคราบน้ำมัน เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดกิจการแต่อย่างใด และได้ติดธงแดงห้ามลงเล่นน้ำหาดแม่รำพึง สำหรับหาดอื่นๆ นอกเหนือจากพื้นที่ได้รับผลกระทบในข้างต้นยังสามารถเล่นได้ตามปกติ
ทั้งนี้ ชาญนะย้ำว่า สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์กู้คราบน้ำมันรั่วไหลที่จังหวัดระยอง (หมู่บ้านสบ๊ายสบาย) ถนนเลียบชายหาดแม่รำพึง