หลังสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วขึ้นฝั่งระยองอย่างหนักตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 กิโลเมตร จนทำให้หาดทรายและพื้นน้ำบางส่วนกลายเป็นสีดำ
ผู้สื่อข่าวของ THE STANDARD รายงานจากพื้นที่ว่า สถานการณ์น้ำมันดิบรั่วเกยฝั่งหาดแม่รำพึงดีขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อวานนี้ (29 มกราคม) มีการเพิ่มกำลังพลตามจุดต่างๆ และวางแนวกันน้ำมันบริเวณก้นอ่าว ก้อนน้ำมันตามหาดถูกขจัดเกือบหมดแล้ว เหลือแต่คราบบางๆ เท่านั้น วันนี้ตามหาดทรายมีการปักธงแดงห้ามลงเล่นน้ำ แต่ไม่ได้ห้ามให้เดินเล่นตามชายหาดแต่อย่างใด ซึ่งสอดคล้องกับงานแถลงข่าวความคืบหน้าของหน่วยงานรัฐ
ในการแถลงข่าวความคืบหน้าล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง โฆษกกองทัพเรือ และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมชี้แจง โดยขณะนี้กองทัพเรือได้เตรียมกำลังพลประมาณ 2,000 นายไว้ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งยังประเมินสถานการณ์ไว้ขั้นเลวร้ายที่สุด ตอนนี้มีการสกัดกั้นน้ำมันส่วนที่อยู่กลางทะเลอย่างเต็มที่ ส่วนริมฝั่งก้อนน้ำมันดิบขจัดเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ฟิล์มบางๆ เคลือบอยู่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 8-10 วันในการสลายเองตามธรรมชาติ
อย่างไรก็ดี กองทัพเรือและผู้ว่าฯ ยอมรับว่า น้ำมันดิบที่รั่วกลางทะเลมีสิทธิ์ขึ้นฝั่งเสม็ดหากกระแสลมแรง ทว่าตอนนี้ยังควบคุมได้ และไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นเกาะเสม็ดแต่อย่างใด
ด้านชาวบ้านและผู้ประกอบการร้านค้า ผู้สื่อข่าวในพื้นที่รายงานว่า ส่วนใหญ่ยังคงปิดทำการ เนื่องจากร้านอาหารละแวกนั้นจำเป็นต้องใช้น้ำทะเลหมุนเวียนภายในร้าน เมื่อไม่มีจึงปิด ร้านโชห่วยเล็กๆ ยังคงเปิดให้บริการ และหาดหลายส่วนในช่วงท้ายของหาดแม่รำพึงถึงอุทยานฯ แหลมหญ้าน้ำทะเลยังคงใส หากแต่ไม่มีใครเล่นน้ำ เนื่องจากการปักธงแดงของภาครัฐ
สำหรับผู้ประกอบการ ชาวบ้าน และชาวประมง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ว่าฯ ขอให้มั่นใจว่าจะมีการเยียวยาแน่นอน โดยสามารถลงชื่อพร้อมรายละเอียดผลกระทบได้ทางศูนย์ที่ภาครัฐจัดตั้งขึ้นชั่วคราวบริเวณหน้าหาด
อ้างอิง: