ศบค. เคาะทุกพื้นที่เปิดบริการดื่มสุราได้ในคืนเคานต์ดาวน์ไม่เกินตี 1 ไฟเขียวจัดงานปีใหม่-สวดมนต์ข้ามปี

วันนี้ (13 ธันวาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 20/2564 เห็นชอบเพิ่มจังหวัดชลบุรี เป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวทั้งจังหวัด รวมพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัด ทุกพื้นที่ให้เปิดบริการและดื่มสุราในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 ได้ไม่เกิน 01.00 น. เฉพาะร้านที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก 

ส่วนมาตรการจัดงานปีใหม่ที่มีผู้เข้าร่วมตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป ผู้ร่วมงานทุกคนต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม และตรวจ ATK ก่อนเข้างาน ขณะที่การเข้าประเทศด้วยระบบ Sandbox และแบบกักตัว (Quarantine Facilities) ทุกช่องทาง ต้องกักตัว 7 วัน ทั้งนี้ ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งแพร่ระบาดไปแล้วมากกว่า 54 ประเทศ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและศึกษาทั้งอาการและความรุนแรงของโรครวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนและยาต่อเชื้อ รวมไปถึงแนวทางปฏิบัติของประเทศต่างๆ รวมทั้งเตรียมความพร้อมทั้งวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ เตียงผู้ป่วย เป็นต้น 

พร้อมกำชับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจากผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เน้นการตรวจคัดกรองและการสอบสวนโรคให้เข้มงวดขึ้น สกัดกั้นควบคุมดูแลการเดินทางเข้า-ออกประเทศตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติอย่างเข้มงวด รวมทั้งให้มีการสุ่มตรวจสถานประกอบการ สถานบริการ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID-FREE Setting และการป้องกันแบบครอบจักรวาล Universal Prevention อย่างเคร่งครัดด้วย

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังรู้สึกยินดีที่หลายประเทศนำระบบการเปิดประเทศแบบปลอดภัยของไทย Test and Go เป็นต้นแบบที่เน้นป้องกันการแพร่เชื้อในประเทศ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประเทศต้นทาง ที่ผ่านมาหลายประเทศชื่นชมความสำเร็จในการเปิดประเทศของไทย โดยที่สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดน้อยลงด้วย 

ซึ่งหลังจาก ศบค. ได้ออกข้อกำหนดให้มีการจัดงานเทศกาลปีใหม่และสวดมนต์ข้ามปีแล้ว ก็จะให้ศึกษาประสิทธิภาพของมาตรการต่างๆ สำหรับใช้ในงานเทศกาลอื่นๆ เช่น สงกรานต์ ต่อไป นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้ครบอย่างน้อย 2 เข็ม ซึ่งสามารถป้องกันอาการรุนแรงจากโควิดได้ทุกสายพันธุ์ พร้อมฝากเชิญชวนประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย 608 เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความปลอดภัย

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. มีมติเห็นชอบการปรับพื้นที่ การจัดงานเทศกาลปีใหม่และการสวดมนต์ข้ามปี และการเข้า-ออกประเทศ ดังนี้

1. เห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร

• พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่เฝ้าระวัง 0 จังหวัด 
• พื้นที่ควบคุม 39 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 30 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด โดยมีพื้นที่นำร่องบางพื้นที่ในจังหวัด 18 จังหวัด โดยเพิ่มจังหวัดชลบุรีเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวทั้งจังหวัด

2. เห็นชอบการปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร

• การพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox Programme) และการเข้ากักตัว (Quarantine Facilities) ต้องมีระยะเวลาพำนัก/กักตัว 7 วัน
• การปรับการตรวจหาเชื้อสำหรับ Test and Go และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox Programme) เป็น RT-PCR ครั้งที่ 1 และยังคงตรวจ ATK ด้วยตนเองครั้งที่ 2

2.1 ปรับกลุ่มประเภทผู้เดินทาง 6 กลุ่ม และกลุ่มประเทศ 4 กลุ่ม ดังนี้

• จำแนกประเภท รูปแบบ และเงื่อนไขการเดินทาง 6 กลุ่ม ได้แก่ 

1. Test and Go  
2. Sandbox 
3. กักตัว 
4. ผู้ขนส่งสินค้าทางบก/เรือ 
5. ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ
6. ผู้มีเหตุยกเว้น หรือได้รับอนุญาตตามเงื่อนไขเฉพาะ

• ประเทศต้นทาง 4 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มประเทศ Test and Go (จำนวน 63 ประเทศ/พื้นที่)
2. กลุ่มทุกประเทศ
3. กลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ (มาจากประเทศในทวีปแอฟริกาไม่รวม 8 ประเทศ หรือเคยพำนักในช่วง 21 วันก่อนเดินทาง ได้แก่ บอตสวานา, เอสวาตินี, เลโซโท, มาลาวี, โมซัมบิก, นามิเบีย, แอฟริกาใต้ และซิมบับเว
4. กลุ่มประเทศเสี่ยงสูง

3. เห็นชอบการปรับมาตรการป้องกันโรคโควิดในการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่

• พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว สามารถเปิดบริการและบริโภคสุราในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 ได้ไม่เกิน 01.00 น. เฉพาะร้านที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวกเท่านั้น ทั้งนี้ เคร่งครัดมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่สาธารณสุขกำหนด (COVID-FREE Setting) 

• มาตรการสำหรับการจัดงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป โดยผู้จัดงานปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ต้องลงทะเบียนและทำการประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID 2Plus (TSC 2+) และควบคุมกำกับให้พนักงานประเมินตนเองผ่าน Thai Save Thai (TST) พร้อมยกระดับ COVID-FREE Customer และ COVID-FREE Environment ผู้เข้าร่วมต้องฉีดวัคซีน 2 เข็ม และมีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK (ต่ำกว่า 1,000 คน ดำเนินการตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้แล้ว)

สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี มีมาตรการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

• ส่วนกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เวลา 22.30 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย เจริญจิตตภาวนา และสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า และวัดอรุณราชวราราม วันที่ 31 ธันวาคม 2564 เวลา 23.30 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย เจริญจิตตภาวนา สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า วันที่ 1 มกราคม 2565 เวลา 07.00 น. กิจกรรมประกอบไปด้วย ทำบุญตักบาตรรับปีใหม่
• ส่วนภูมิภาค สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง และกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นใน 3 ภูมิภาค ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี และภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งเสริมบูรณาการความร่วมมือทางศาสนา ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวในมิติศาสนา