ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติเตือนคนไทยต้องทำความเข้าใจเรื่องบิตคอยน์ (Bitcoin) และเงินดิจิทัลก่อนคิดลงทุน ย้ำยังไม่มีธนาคารกลางรองรับ ขอให้ระวังแชร์ลูกโซ่ชวนหลอกลงทุน
ราคาเงิน Bitcoin เช้านี้อยู่ที่ 16,562.51 ดอลลาร์หรือกว่า 541,000 บาทต่อ 1 BTC ท่ามกลางความกังวลเรื่องฟองสบู่เงินดิจิทัล ขณะเดียวกันเริ่มมีนักลงทุนไทยสนใจเข้าเก็งกำไรมากขึ้น ล่าสุด ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ โดยเน้นว่าเงินดิจิทัลเหล่านี้น่าจะเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ต้องระมัดระวัง ประชาชนควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนตัดสินใจ และต้องตั้งคำถามก่อนว่าผลตอบแทนของเงินดิจิทัลมาจากไหน บริหารความเสี่ยงอย่างไร โดยปัจจุบันยังไม่มีธนาคารแห่งใดในโลกที่ออกมารับรอง
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติเปรียบเทียบลักษณะของบิตคอยน์ ซึ่งจะคล้ายสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ หรือน้ำมันมากกว่าในมุมของราคาที่ผันผวน อาจปรับตัวขึ้นรวดเร็วและดิ่งลงฮวบฮาบเช่นเดียวกัน โดยที่บิตคอยน์ขณะนี้ไม่ถือเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนที่มีกฎหมายรองรับ (Legal Tender) จึงไม่สามารถใช้ชำระหนี้ ซื้อสินค้าและบริการทั่วไปได้ตามกฎหมาย แม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ที่มีการนำเสนอข่าวการซื้อสินค้าด้วยบิตคอยน์ ก็ยังไม่ถือเป็นการชำระเงินที่มีกฎหมายรองรับ (Legal Payment Method) สิ่งที่ทั่วโลกปฏิบัติต่อกรณีนี้คือการตรวจสอบตัวตนของผู้ที่ทำธุรกรรมด้วยเงินดิจิทัลก่อนที่จะให้ซื้อขายแลกเปลี่ยน เพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายการฟอกเงิน หรือธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติย้ำว่าลักษณะสำคัญของเงินตรา คือมีราคาที่ชัดเจนและค่าเงินต้องมีเสถียรภาพ ไม่ผันผวน ซึ่งจะต่างจากสถานการณ์ของบิตคอยน์ในตอนนี้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังเตือนประชาชนที่รับรู้เรื่องของบิตคอยน์ที่ราคาพุ่งสูงและอาจอยากลองลงทุนเพื่อทำกำไร เพราะอาจเป็นช่องทางให้บรรดาแชร์ลูกโซ่ชักชวนให้ลงทุน โดยอ้างว่านำเงินไปลงทุนในบิตคอยน์ได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่เป็นความเสี่ยงเชิงระบบต่อภาคการเงินไทยจากประเด็นดังกล่าว สถาบันการเงินไทยยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งเรื่องนี้แบงก์ชาติและกระทรวงการคลังก็ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด