ตะโกน ‘โอ๊ย’ ให้สุดเสียง ไปกับสำเนียงร็อกอีสานของ โจอี้ ภูวศิษฐ์

ในทางจิตวิทยา หนึ่งในวิธีทำลายความเครียดที่ดีที่สุดคือการระบายอารมณ์ และการตะโกนก็เป็นหนึ่งในการระบายอารมณ์ชั้นดีที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดภายในจิตใจ

ตะโกนลาความเจ็บปวดให้สุดเสียงกับ ‘โอ๊ย’ ซิงเกิลใหม่ล่าสุดจาก โจอี้-ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิริ ศิลปินลูกครึ่งอีสานจากค่าย Genie Records ที่เคยพาผู้ฟังย้อนกลับไปในค่ำคืนแห่งความคิดถึงมาแล้วในเพลง ‘ดวงเดือน’ เพลงฮิตที่มียอดผู้เข้าชมบน YouTube กว่า 100 ล้านครั้ง และเจ้าของอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงยอดนิยมในแอปพลิเคชัน Joox

ในเพลง ‘โอ๊ย’ คืออีกเพลงหนึ่งที่โจอี้ตั้งใจจะคงความร็อกผสมผสานความเป็นอีสานบ้านเกิดเอาไว้ โดยการผสมเครื่องดนตรีประจำตัวอย่างพิณ มาใช้เป็นซาวด์ประกอบกับเครื่องดนตรีสากลอื่นๆ ทำให้เราได้กลิ่นอายของความเป็นดนตรีอีสานร่วมสมัยไปตลอดการฟังเพลงนี้

ในส่วนของเนื้อหาเพลง โจอี้ได้แต่งเพลงนี้ร่วมกับ แบงค์-รัฐวิชญ์ อนันต์พรสิริ สื่อสารความรู้สึกอึดอัดและเจ็บปวด เล่าความรู้สึกของความสัมพันธ์ที่จบลงแล้วแต่ยังคงหลงเหลือบาดแผลที่ไม่มีวันหายไปเอาไว้

ด้านมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ได้ ต๋อม-ณัฐพล มุขขันข์ มาแผ่ขยายความเจ็บปวดด้วยเรื่องราวความรักของคู่รักวัยมัธยม และการเลิกราที่เหมือนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่กลับเป็นการเลิกราที่กลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงๆ นี้ หลังจากฟังเพลงนี้ไปหลายต่อหลายรอบ นอกจากความเจ็บปวดของการเลิกราที่ปนเปอยู่ในบทเพลงแล้ว ยังทำให้เราเห็นภาพของคนที่กำลังตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง เหมือนว่าเขานั้นได้เสียทุกอย่างไปหมดแล้ว

“ความช้ำฉันคงต้องรับมันเอง

สุดท้ายก็ได้แค่ร้องเป็นเพลงแทนความปวดใจ”

หากเปรียบเพลงนี้เป็นคนหนึ่งคน แน่นอนว่าคนชื่อ โอ๊ย คนนี้พึ่งโดนผลักออกจากชีวิตของคนรักมาหมาดๆ พร้อมอาการอกหักอย่างรุนแรง นอกจากความเจ็บปวดที่โอ๊ยได้เจอแล้ว วิธีการบรรเทาความเจ็บปวดก็เป็นสิ่งที่โอ๊ยได้เจอเช่นกัน

ในทางจิตวิทยา หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดความเจ็บปวดและความเครียดภายในจิตใจได้ดีที่สุดคือการระบายอารมณ์ ดังนั้นสิ่งแรกที่โอ๊ยใช้ในการระบายอารมณ์นั่นก็คือการร้องเพลง ที่ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะไม่ถูกส่งไปถึงใครทั้งนั้น แต่ก็น่าจะทำให้โอ๊ยได้ปลดปล่อยอะไรออกมาบ้างแล้ว

ในเมื่อแผลนี้มันแสนอุกฉกรรจ์ และอาจไม่ได้หายได้ด้วยการร้องเพลง ดังนั้นการร้องเพลงไป ตะโกนไป อาจจะเป็นการใส่ยาเบตาดีนที่จะช่วยสมานแผลก็ได้

“โอ๊ยยยยย ทำไมมันเจ็บแท้

คำว่ารักกำลังเหลือแค่นาทีสุดท้าย

อยากขอให้เธอนั้นเปลี่ยนใจ

แต่คงทำได้เพียงแค่มองดูเธอจากไป ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว”

ใช่ โอ๊ยตะโกน “โอ๊ยยยยย” ออกมาอย่างสุดเสียงในท่อนฮุกของเพลง เขาระบายสิ่งที่อัดอั้นออกมา ตัดพ้อให้กับภาพจำตอนที่เธอค่อยๆ เดินจากไป และเสียดายกับโอกาสสุดท้ายที่เขาไม่สามารถไขว่คว้าเอาไว้

เมื่อผ่านการร้องเพลงและตะโกนอย่างสุดเสียง ร่างกายของโอ๊ยจะหลังสารเอ็นดอร์ฟินออกมา และทำให้จิตใจของเขาผ่อนคลายและสงบมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าวิธีนี้อาจทำให้เกิดการเสพติดเล็กน้อย และอาจทำให้คนรอบตัวตกใจ แต่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการรักษาความเครียดที่นักจิตวิทยาหลายคนใช้เพื่อบำบัดความเครียด

เมื่อร้องเพลงก็แล้ว ตะโกนก็แล้ว สุดท้ายหากความเจ็บมันไม่หายไป ร่างกายจึงระบายความปวดร้าวนั้นออกมาผ่านน้ำตา จบสิ้นกันทีคนเข้มแข็งที่พยายามข้ามผ่านเรื่องแย่ๆ โดยไม่ร้องไห้ แม้ในบางทีน้ำตาพวกนี้ก็ไหลออกมาอย่างไม่ได้ดั่งใจ ไหลออกมามากมายจนทำให้ภาพสุดท้ายของเธอพร่าเบลอแทบมองไม่เห็นก็ตาม

น้ำตาที่ไหลออกมามีอยู่หลายประเภท และน้ำตาจากตาของโอ๊ยคือน้ำตาที่เรียกว่า Emotional Tear หรือน้ำตาที่เกิดจากอารมณ์ ซึ่งในน้ำตาหนึ่งหยดนั้นประกอบไปด้วยสารออกซิโตซินและเอ็นดอร์ฟินที่ช่วยผ่อนคลายด้านร่างกาย และบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ

การเป็นมนุษย์คือการอยู่กับความเจ็บปวด ไม่ใช่แค่โอ๊ย แต่ทุกคนก็เช่นเดียวกัน เราต่างมีวันฝนตก พายุกระหน่ำ ในวันเหล่านั้นการระบายอารมณ์ออกมาด้วยการร้องตะโกนหรือร้องไห้ มันอาจไม่ได้หมุนให้เวลาเดินเร็วขึ้น แต่อย่างน้อยที่สุดมันจะช่วยลดปริมาณน้ำฝนในจิตใจของเราได้ไม่มากก็น้อย

แม้ว่าวันนี้โอ๊ยจะมีแผลสดที่ต้องใส่ยาไปอีกนาน แต่การปฐมพยาบาลโดยการร้องเพลงนี้ ตะโกนออกมาดังๆ พร้อมน้ำตา จะทำให้แผลนี้หายเป็นปลิดทิ้งในสักวันอย่างแน่นอน

ฟังมิวสิกวิดีโอเพลง โอ๊ย ได้ที่