ภาพของ ชาบี เอร์นานเดซ สวมชุดสูทหล่อเหลาเดินออกจากอุโมงค์สนาม ก่อนจะโบกมือทักทายแฟนบอลบาร์เซโลนาที่มาร่วมต้อนรับเขาจำนวนหลายพันคนในสนามคัมป์นู เป็นภาพที่สวยงามเหมือนความฝัน
ไม่ใช่เฉพาะสำหรับตัวเขาเองที่อยากมีโอกาสได้กลับมาคัมป์นูอีกครั้ง แต่รวมถึงแฟนๆ ที่อยากเห็นอดีตยอดมิดฟิลด์สมองเพชรกลับมาคุมทัพทีมเก่า รวมถึง โจน ลาปอร์ตา ประธานสโมสร ที่ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่าจะพาตัวเขากลับมาให้ได้
“ผมตื่นเต้นมาก” ชาบีกล่าวกับแฟนๆ “พวกเราคือสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก และเราจะพยายามอย่างหนักเพื่อจะประสบความสำเร็จ บาร์เซโลนาไม่สามารถพอใจกับผลเสมอหรือแพ้ เราจะต้องชนะทุกนัด”
สิ่งเดียวที่ไม่เป็นเหมือนความฝันเลยคือ สถานการณ์ของบาร์เซโลนาที่เผชิญวิกฤตการณ์การตกต่ำอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี พวกเขาเป็นหนี้มหาศาลมากกว่า 1,100 ล้านยูโร ทำให้ทีมไม่สามารถเก็บตัว ลิโอเนล เมสซี นักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของสโมสรได้ ไม่นับการต้องปล่อยตัว อองตวน กรีซมันน์ กลับไปให้แอตเลติโก มาดริด แบบขาดทุนยับ และการดิ้นรนหาทางเพื่อให้นักเตะที่ย้ายมาฟรีอย่าง เมมฟิส เดปาย, เอริค การ์เซีย หรือ เซร์คิโอ อเกวโร สามารถลงทะเบียนเล่นให้กับสโมสรได้
ขณะที่ผลงานในสนามก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน ล่าสุดบาร์ซาทิ้งโอกาสคว้าชัยชนะเหนือเซลตา บีโก ทั้งที่ขึ้นนำไป 3-0 แต่สุดท้ายโดนตีเสมอ 3-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ของชาบีจึงเป็นงานที่ท้าทายความสามารถของเขาเป็นอย่างยิ่ง
Monday was Xavi Day at Camp Nou! pic.twitter.com/qfhsjUsIn0
— FC Barcelona (@FCBarcelona) November 9, 2021
วินาทีที่ชาบีได้กลับมาเหยียบคัมป์นูอีกครั้ง หลังจากไปเมื่อปี 2015
เรียกขวัญและกำลังใจ
ท่ามกลางสิ่งที่ต้องทำมากมายเต็มไปหมดนั้น สิ่งแรกที่ชาบีน่าจะต้องทำก่อนอย่างอื่นคือ การเรียกขวัญและกำลังใจของทีมให้กลับมาเป็นการเร่งด่วน
พวกเขาไม่ชนะใครในเกมลีกมาแล้ว 4 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่พ่ายต่อเรอัล มาดริด คาคัมป์นู ในศึกเอล กลาสิโก โดยเฉพาะการโดนเซลตา บีโก ไล่ตีเสมอนัดล่าสุดนั้นทำลายความมั่นใจของทีมลงอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว
แฟรงกี เดอ ยอง กองกลางตัวหลักของทีม ถึงกับระบายความผิดหวังออกมาว่า “ทีมไม่มีความเป็นนักสู้” อยู่เลยแม้แต่น้อย
และเมื่อมองย้อนกลับไปในผลงาน 13 นัดแรกในลีก บาร์ซาเก็บชัยชนะได้แค่ 4 นัดเท่านั้น นอกนั้นคือการเสมอ 5 และแพ้อีก 3 จนทำให้ทีมตกไปอยู่อันดับที่ 9 ของตารางการแข่งขันในเวลานี้ ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนถึง ‘สภาพ’ ที่แท้จริงของบาร์ซา
ว่าปัญหาสารพันและวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นบั่นทอนกำลังใจของผู้เล่นในทีมอย่างมาก และจำเป็นอย่างยิ่งที่ชาบีจะต้องนำ ‘ความรู้สึกดี’ กลับคืนมาอีกครั้งให้ได้โดยเร็วที่สุด ปลุกความมั่นใจในตัวเองกลับมา ทะนงในศักดิ์ศรีของบาร์เซโลนาที่จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
นี่คือสิ่งที่ทำได้โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนอะไรนอกจากใจแลกกับใจ
ขันชะเนาะเกมรับ
จากเรื่องที่เป็นนามธรรมอย่างขวัญและกำลังใจ สิ่งที่เป็นรูปธรรมที่ชาบีต้องแก้ไขให้บาร์ซานั้นมีทุกจุด เหมือนรถที่ทั้งแอร์เสีย ไดสตาร์ทพัง และช่วงล่างหลวม
แต่จุดใหญ่ที่ต้องแก้ไขก่อนคือ เกมรับที่เปื่อยยุ่ยเหมือนกระดาษทิชชู และทำให้ไม่ว่าทีมจะพยายามแค่ไหนในการเอาชนะคู่แข่งให้ได้ แต่การเสียประตูง่ายๆ ก็เป็นจุดสลบที่ทำให้พวกเขาต้องเจองานยากลำบากมากขึ้นทุกครั้ง
ยากจนท้อกันไปเอง
ส่วนหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ผู้เล่นในแนวรับของบาร์ซาเวลานี้ไม่ใช่ยอดนักเตะเหมือนในวันวานแล้ว แกนหลักตัวเก๋าอย่าง เคราร์ด ปิเก, จอร์ดี อัลบา หรือ มาร์ค อังเดร แทร์-สเตเกิน และเสาหลักค้ำยันอย่าง เซร์คิโอ บุสเกตส์ โรยราลงทุกวัน
คนอื่นๆ อย่าง ออสการ์ มินเกซา จากลา มาเซียิ ก็แค่ถูไถ, เอริค การ์เซีย ในความเป็นจริงก็เป็นแค่กองหลังตัวสำรองของสำรองในทีมอย่างแมนฯ ซิตี้, เซอร์จินโญ เดสต์ ก็ยังไม่ดีนัก เช่นเดียวกับ โรนัลด์ อาเราโฮ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เคลมองต์ ลองเลต์ และ ซามูแอล อุมติตี ที่น่าผิดหวังเมื่อได้ลงสนาม
อย่างไรก็ดี ชาบีต้องพยายามหาทางใช้ผู้เล่นเท่าที่มีไปก่อนอย่างน้อยในฤดูกาลนี้ ซึ่งก็น่าสนใจว่าจะมีวิธี ‘ขันชะเนาะ’ เกมรับอย่างไรให้เลือดหยุดไหลเร็วที่สุด
ถ้าทำได้ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น
อันซู ฟาติ เป็นนักเตะรายล่าสุดที่บาดเจ็บ ซึ่งเป็นปัญหาที่ชาบีต้องแก้ไขให้ได้
ยุบโรงพยาบาลสนามคัมป์นู
อีกหนึ่งปัญหาที่ฝังลึกและส่งผลกระทบต่อทีมอย่างมากคือ เรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่น
ล่าสุดในเกมกับเซลตา บีโก บาร์ซาเสีย อันซู ฟาติ กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปีที่เป็นความหวังของทีม (ทีมไหนต้องฝากความหวังไว้กับเด็ก 18 ก็จะเห็นภาพว่าแย่แค่ไหน) ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อด้านหลังโคนขาไปอีกคน และทำให้ถึงตอนนี้บาร์ซามีผู้เล่นที่บาดเจ็บรวม 11 คนด้วยกัน
โดยนอกจากฟาติยังมี เอริค การ์เซีย, นิโก กอนซาเลซ, เซอร์จินโญ เดสต์, ปิเก, เซร์จี โรแบร์โต, เปดรี, มาร์ติน เบรธเวต และ อุสมาน เดมเบเล ที่เจ็บตลอดกาล ไม่นับเนโตที่ป่วยเป็นไข้ และอเกวโรที่ต้องตรวจเช็กหัวใจอย่างละเอียด ทำให้ไม่สามารถลงสนามได้เป็นเวลา 3 เดือน
ข่าวดีคือ ชาบีจะมีเวลาอีกเกือบ 2 สัปดาห์ ซึ่งอาจจะมีผู้เล่นบางคนหายกลับมาบ้าง แต่ข่าวดีกว่าคือ ชาบีไม่คิดจะนิ่งนอนใจในเรื่องนี้
ล่าสุดมีการประกาศเลิกจ้าง ฮวนโฮ เบรา หัวหน้าทีมนักกายภาพบำบัด โดยตั้ง การ์เลส โนเกวรา ทีมงานของเขาที่ติดตามมาจากอัล ซาดด์ ทำหน้าที่แทน รวมถึงการปลด อัลเบิร์ต โรคา ฟิตเนสเทรนเนอร์ของทีมชุดใหญ่ ออกจากตำแหน่งด้วย ซึ่งเป็นการสะท้อนว่า การดูแลสภาพร่างกายผู้เล่นของบาร์ซาอาจจะไม่ดีนัก ทำให้นักฟุตบอลในทีมมีปัญหาอาการบาดเจ็บ
ชาบียังเตรียมปรับตารางการซ้อม โดยจะให้ช่วงเช้ายาวขึ้น ให้ทีมได้รับประทานอาหารเช้าด้วยกันที่สนามซ้อมซิอูตาตเอสตาปอร์ติวา ซึ่งจะสามารถควบคุมเรื่องโภชนาการของทีมได้ และจะมีการจัดทำโปรแกรมเฉพาะสำหรับนักฟุตบอลแต่ละคน เพื่อป้องกันปัญหาอาการบาดเจ็บด้วย
อุสมาน เดมเบเล คือนักเตะที่ชาบีต้องการต่อสัญญาในฐานะแกนนำของทีมแห่งอนาคต
ร่างแบบแปลนบาร์ซาแห่งอนาคต
ทีนี้นอกเหนือจากปัญหาเร่งด่วนเหล่านี้แล้ว สิ่งที่ชาบีต้องการทำคือ การวางรากฐานทีมสำหรับอนาคตด้วยในเวลาเดียวกัน
โชคดีที่แม้บาร์ซาจะเยินขนาดไหน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ค้นพบเพชรเม็ดงามอย่างน้อย 3 คนในทีม คือ อันซู ฟาติ, เปดรี และล่าสุดในฤดูกาลนี้คือ กาบี
แต่ที่น่าสนใจคือ การออกมากล่าวถึงนักเตะที่หลายคนยี้อย่าง อุสมาน เดมเบเล ที่ชาบียืนยันว่าต้องการต่อสัญญากับนักเตะอนาคตไกลรายนี้ก่อนเป็นเป้าหมายอันดับแรก เพราะเชื่อว่าหากสภาพร่างกายของอดีตดาวโรจน์ดอร์ทมุนด์ไม่มีปัญหาแล้ว เขามีโอกาสจะพัฒนาเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งริมเส้นได้เลยทีเดียว
ขณะที่สไตล์การเล่นของบาร์ซานั้นก็น่าสนใจ เพราะชาบีเป็นหัวใจของ Tiki-Taka ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และดูเหมือนอัล ซาดด์ ก็จะถอดแบบการเล่นมาเหมือนกัน ซึ่งด้วยความเป็นบาร์ซาเลือดแท้ เชื่อว่าชาบีจะนำสไตล์ฟุตบอลสวยงามที่ถูกใจแฟนบอลแบบเดิมกลับมาอีกครั้ง
ส่วนจะมีการปรับหรือเปลี่ยนรายละเอียดส่วนใดเพื่อให้ตอบสนองต่อฟุตบอลสมัยใหม่ที่เร็วและมีดีเทลมากกว่าเก่าหรือไม่ (ขนาดเป๊ปก็ยังต้องปรับ) เป็นสิ่งที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง
ที่แน่ชัดคือ เราพอมองเห็นแสงสว่างรำไรของบาร์ซาบ้างว่าหลายอย่างจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น
แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของชาบีเองว่าเขาจะกอบกู้ทีมกลับมาไหวหรือไม่ เพราะด้วยวัย 41 ปี และประสบการณ์ทำงานที่ยังไม่มากเท่าไร งานของเขาตอนนี้ยากกว่าครั้งที่รุ่นพี่อย่างเปปรับตำแหน่งต่อจาก แฟรงค์ ไรจ์การ์ด มากมายหลายเท่านัก
อ้างอิง: