ฟ้องแรปเปอร์ดัง ทราวิส สก็อตต์ และ เดรก ปลุกปั่นความโกลาหลในคอนเสิร์ต หลังเกิดโศกนาฏกรรมผู้ชมเบียดกันเสียชีวิต 8 คน

บริษัทกฎหมาย Thomas J. Henry Law ในรัฐเท็กซัส ออกมายืนยันข่าวการยื่นฟ้องร้อง ทราวิส สก็อตต์ แรปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน พร้อมด้วย เดรก หรือ ออเบรย์ เดรก เกรแฮม แรปเปอร์ชาวแคนาดา ในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความโกลาหล หลังจากเกิดเหตุเบียดกันเสียชีวิตระหว่างคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรี แอสโตรเวิลด์ เฟสติวัล ที่จัดขึ้นในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 พฤศจิกายน) ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

โดยบริษัท Thomas J. Henry Law ได้ทวีตข่าวการฟ้องร้องที่เผยแพร่โดยหนังสือพิมพ์ Daily Mail และยืนยันว่าได้ดำเนินการฟ้องร้องในคดีแรกจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งมีโจทก์คือ คริสเตียน แพเรเดส หญิงวัย 23 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชมคอนเสิร์ตที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในขณะที่มีผู้ชมราว 50,000 คน แออัดอยู่ภายในสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ชื่อว่า NRG Park โดยระหว่างเกิดเหตุ ฝูงชนพยายามที่จะดันกันเพื่อไปยังเวทีแสดงคอนเสิร์ตของ ทราวิส สก็อตต์ ทำให้คนที่อยู่ด้านหน้าถูกบีบอัดจนเสียชีวิต

รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า หลังเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 300 คน ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลสนามที่ตั้งขึ้นใกล้พื้นที่จัดงาน ในจำนวนนี้ 23 คน รวมเด็กวัย 10 ปี มีอาการสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะเสียชีวิต 8 คน

ทั้งนี้ แพเรเดสยังได้ยื่นฟ้องร้องบริษัท Live Nation Entertainment ผู้จัดงานและทางสถานที่จัดงาน ซึ่งเธอเล่าถึงวินาทีเกิดเหตุว่า รู้สึกเหมือนถูกดันไปที่บริเวณด้านหน้าขณะที่ ทราวิส สก็อตต์ อยู่บนเวที ก่อนที่ฝูงชนจะเริ่มเกิดความโกลาหลและเหยียบกันเสียชีวิต

“ฝูงชนเกิดความโกลาหลและเริ่มเกิดการเหยียบกันตาย หลายคนพยายามขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่บริษัท Live Nation Entertainment ว่าจ้าง แต่ถูกเพิกเฉย”

ขณะที่คำฟ้องกล่าวหาสก็อตต์ว่า เคยปลุกปั่นให้เกิดความโกลาหลมาแล้วในงานคอนเสิร์ตก่อนหน้านี้ และทางผู้จัดงานนั้นรู้หรือควรรู้อยู่แล้วถึงพฤติกรรมของสก็อตต์ ส่วนเดรกนั้น ในคำฟ้องกล่าวหาว่าเขามีส่วนสนับสนุนให้ผู้ชมเบียดกันเข้าไปที่เวที

“ระหว่างที่เดรกขึ้นเวทีกับสก็อตต์ เขาได้ช่วยปลุกระดมฝูงชน แม้จะรู้อยู่แล้วถึงพฤติกรรมก่อนหน้านี้ของสก็อตต์” ส่วนหนึ่งของข้อกล่าวหาที่ระบุในคำฟ้อง นอกจากนี้ยังเสริมว่าสก็อตต์ยังคงทำการแสดงต่อแม้ว่าฝูงชนจะเริ่มควบคุมไม่ได้และเกิดความโกลาหลขึ้น

ทางด้านสก็อตต์ได้ทวีตข้อความหลังเกิดเหตุ ระบุว่าเขาเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจในการตรวจสอบกรณีการเสียชีวิต พร้อมทั้งให้สัญญาว่าจะช่วยเยียวยาครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบ

“ผมรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ คำอธิษฐานของผมส่งไปถึงครอบครัวและทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่แอสโตรเวิลด์ เฟสติวัล ผมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อกรมตำรวจฮิวสตัน ในขณะที่พวกเขายังคงดำเนินการตรวจสอบการสูญเสียชีวิตอันน่าเศร้านี้

“ผมมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับชุมชนฮิวสตัน เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ ขอบคุณตำรวจฮิวสตัน หน่วยดับเพลิง และทาง NRG Park สำหรับการตอบสนองและการช่วยเหลือในทันที” เขากล่าว

กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุโศกนาฏกรรมในเทศกาลดนตรีของสหรัฐฯ ที่ร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ขณะที่ผู้จัดงานคอนเสิร์ตกำลังเผชิญกับข้อสงสัยว่า ทำไมสก็อตต์ยังคงทำการแสดงต่อไปแม้จะเริ่มเกิดเหตุผู้คนเบียดและเหยียบกันเสียชีวิต และมีเจ้าหน้าที่เข้าไปพยายามควบคุมเหตุการณ์

ซึ่งข้อมูลจากสำนักข่าว Houston Chronicle ที่ตรวจสอบคลิปวิดีโอและโพสต์ทางโซเชียลมีเดียพบว่า ผู้คนเริ่มล้มลงหลังเกิดการเบียดกันในเวลาประมาณ 21.39 น. ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ทางผู้จัดงานตัดสินใจหยุดการแสดง แต่สก็อตต์ยังคงทำการแสดงต่อไปจนเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 22.15 น. หรือ 36 นาทีหลังจากที่เริ่มเกิดโศกนาฏกรรม

ขณะที่ Washington Post รายงานว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า คอนเสิร์ตยังดำเนินต่อไปอีกราว 1 ชั่วโมง หลังจากที่ผู้ชมบางส่วนเริ่มเกิดความไม่สบายใจ และมีข้อมูลว่าหลายคนพยายามส่งเสียงเตือนแล้ว แต่เสียงถูกกลบจากการแสดงของสก็อตต์

ภาพ: Photo by Erika Goldring/WireImage

อ้างอิง: