วันนี้ (7 พฤศจิกายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ดิฉันเห็นว่าการเพิ่มเพดานวงเงินกู้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็น 4 หมื่นล้านบาท เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลได้เพียง 30 บาทต่อลิตร ไม่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างสิ้นเชิง
เพราะไม่ทำให้ความเดือดร้อนของประชาชนลดน้อยลง แถมยังก่อให้เกิดหนี้ผูกพันที่ประชาชนต้องเป็นผู้ชำระหนี้ในอนาคต
ดิฉันขอยืนยันอีกครั้งว่า รัฐบาลควร ‘ยกเลิกการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล’ เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งจะทำให้สามารถลดราคาน้ำมันได้ทันทีถึง 6 บาทต่อลิตร
ดิฉันขอวิงวอนรัฐบาลให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่เผชิญมหาวิกฤตทั้งโรคระบาดและเศรษฐกิจเป็นหลัก การที่รัฐบาลเกรงว่าจะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีนี้จำนวนมหาศาลเป็นการผลักภาระไปให้ประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะน้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นที่พื้นฐานในการผลิตสินค้า บริการ และการขนส่ง ที่ส่งผลกระทบกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นของประชาชนทุกคน สินค้าทุกตัวพุ่งทะยานในรอบหลายปี รวมทั้งผักและอาหารอื่นๆ
เป็นผลให้อัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม 2564 เพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 2.38 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ราคานำ้มันส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการการขนส่งอย่างมากจนกลุ่ม Truck Power ของเครือสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะประท้วงด้วยการหยุดรถจำนวน 20% และจะนำรถบรรทุกออกมาเดินขบวนเคลื่อนไหวทั่วประเทศ
หากประชาชนไม่สามารถฟื้นตัวจากมหาวิกฤตที่ถาโถมได้ กำลังซื้อภายในประเทศก็จะไม่เพิ่มขึ้น ส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม
“ดังนั้นหากประชาชนสามารถฟื้นตัวจากมหาวิกฤตเหล่านี้ได้ รายได้จากการเก็บภาษีโดยรวมที่เก็บจากประชาชนจะกลับคืนมากกว่ารายได้จากภาษีน้ำมันที่รัฐบาลจะยกเลิกไป ดิฉันคิดว่ารัฐบาลควรมองปัญหาของประชาชนให้รอบด้าน และแก้ปัญหาให้ถูกจุดด้วยค่ะ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวในท้ายที่สุด
อ้างอิง: