โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือ 1 ของโลกเปรยว่า อาจจะไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันรายการออสเตรเลียนโอเพ่นในเดือนมกราคมปีหน้าได้ เนื่องจากติดข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องของวัคซีนโควิด
โดยตามมาตรการของรัฐวิกตอเรีย ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันออสเตรเลียนโอเพ่นนั้นระบุว่า นักกีฬาคนใดที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนจะไม่ได้รับวีซ่าเพื่อเดินทางมาทำการแข่งขัน ซึ่งยอโควิชนั้นได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยสถานะเกี่ยวกับเรื่องของการรับวัคซีนตลอด แต่ครั้งนี้ได้เปรยว่าเขาไม่แน่ใจว่าจะสามารถเดินทางไปป้องกันแชมป์รายการนี้ได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าทางการจะยังไม่มีการระบุคุณสมบัติที่ชัดเจนสำหรับคนที่เดินทางจากต่างประเทศก็ตาม
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างนี้ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะได้ไปเมลเบิร์นหรือไม่” ยอโควิชให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Blic ในประเทศเซอร์เบียบ้านเกิด “ผมจะไม่เปิดเผยสถานะของผมว่าผมเข้ารับวัคซีนแล้วหรือไม่ มันเป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่จำเป็น
“ผู้คนสมัยนี้ล้ำเส้นเกินไปเกี่ยวกับการอ้างเสรีภาพในการตั้งคำถามและตัดสินผู้อื่น ไม่ว่าจะบอกว่า ใช่ ไม่ใช่ หรือบางที ผมกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ จะพูดอะไรก็ตามพวกเขาก็จะหาทางพูดเข้าข้างตัวเองเสมอ”
ยอโควิชในวัย 34 ปี และเป็นเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลมรายการนี้มาถึง 9 สมัย โดยที่ต้องการแกรนด์สแลมอีกรายการเดียวก็จะแซงหน้า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และราฟาเอล นาดาล เป็นนักเทนนิสที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมสูงสุดตลอดกาล ยืนยันว่าจะรอความชัดเจนจากทางการเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการแข่งหรือไม่
“แน่นอนว่าผมก็อยากไป ออสเตรเลียคือประเทศที่ผมได้แชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุด ผมอยากลงแข่งขัน ผมรักกีฬานี้ และผมก็ยังมีความกระตือรือร้นอยู่ ผมจะติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับเรื่องของการแข่งออสเตรเลียนโอเพ่น และผมเข้าใจว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้าย (เกี่ยวกับมาตรการโควิด) จะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ผมเชื่อว่าจะมีข้อบังคับมากมายเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ผมสงสัยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยเหมือนกัน
“ผู้จัดการส่วนตัวของผมติดต่อกับทางสหพันธ์เทนนิสออสเตรเลียตลอด เขาบอกผมว่าพวกเขาพยายามที่จะตั้งเงื่อนไขที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน ทั้งคนที่รับวัคซีนแล้วและคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน”
ก่อนหน้านี้ทางด้านมุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่ให้วีซ่าสำหรับนักกีฬาที่ไม่ได้รับวัคซีนเพื่อเข้าประเทศ และต่อให้เข้าประเทศได้ก็จะต้องกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และไม่เห็นด้วยกับการอนุโลมเป็นกรณีพิเศษสำหรับนักกีฬาที่จะเดินทางเข้ามาในรัฐ เพราะวัคซีนนั้นไม่เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด ทุกคนควรจะได้รับวัคซีนเพื่อทำให้ตัวเองปลอดภัย และเพื่อความปลอดภัยของคนอื่นด้วย
อ้างอิง:
