ความขัดแย้งระหว่างสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกับทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งได้เจ้าของใหม่ที่เป็นกองทุนใหญ่จากประเทศซาอุดีอาระเบียยังดำเนินต่อไป เมื่อ 18 สโมสรมีการโหวตให้มีการหาทางป้องกันไม่ให้ได้รับเงินจากสปอนเซอร์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเจ้าของสโมสร
เมื่อวานนี้ (18 ตุลาคม) มีการประชุมด่วนระหว่าง 20 สโมสรพรีเมียร์ลีก โดยมีวาระเกี่ยวกับการออกกฎชั่วคราวไม่ให้มีสโมสรใดที่จะรับสปอนเซอร์ที่เกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์กับธุรกิจของเจ้าของสโมสรฟุตบอล เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสภาวะที่สโมสรอื่นไม่สามารถทำการแข่งขันได้
ทางฝ่ายนิวคาสเซิล ซึ่งส่ง ลี ชาร์นลีย์ ผู้อำนวยการจัดการในเวลานี้มาเป็นตัวแทนไม่ใช่ อแมนดา สเตฟลีย์ ผู้ถือหุ้นที่เป็นผู้อำนวยการ ซึ่งมีหน้าที่ในการบริหารสโมสรเป็นหลักเข้าประชุม ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนโดยระบุว่า การออกกฎครั้งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ดี ในการประชุมได้มีการลงมติกันโดยมี 18 สโมสรที่เห็นชอบกับกฎนี้ โดยมีเพียงนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดทีมเดียวที่โหวตคัดค้าน ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ของดออกเสียง เนื่องจากว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกเองก็ได้รับประโยชน์จากการรับเงินสปอนเซอร์ที่เกี่ยวข้องกับอาบูดาบี เช่น สปอนเซอร์บนหน้าอกเสื้อจากสายการบินเอทิฮัด ซึ่งมีรัฐบาลอาบูดาบีเป็นเจ้าของ
การลงมติครั้งนี้จะทำให้กฎใหม่มีผลบังคับใช้กับทุกสโมสรโดยตรงทันที ส่วนหลังจากนี้มีความพยายามจากหลายสโมสรที่ต้องการจะให้กฎนี้มีการบังคับใช้อย่างถาวร ซึ่งจะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างหลายสโมสร เพื่อพิจารณาว่าควรจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อใดอีกบ้าง โดยมีการสอบถามนิวคาสเซิลด้วยว่า ต้องการที่จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่
สำหรับทางด้านพรีเมียร์ลีกได้จับตาดูประเด็นนี้อยู่เช่นกัน และยังดำเนินการสอบสวนแมนฯ ซิตี้ว่ามีการกระทำผิดกฎทางการเงิน Financial Fair Play หรือไม่ ซึ่งสโมสรดังจากเมืองแมนเชสเตอร์ยืนยันว่าไม่ได้มีการกระทำผิดใดๆ ทั้งสิ้น
อ้างอิง:
