นับตั้งแต่วันที่หน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCareTM Gen 2 ผยโฉมพร้อมไฮไลต์เด็ดมัดใจสายเฮลตี้และแก็ดเจ็ตเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้น LG PuriCareTM Gen 2 ก็อยู่ในซีนของหน้ากากฟอกอากาศสุดล้ำที่หลายๆ คนหมายปองเรื่อยมา ในขณะเดียวกัน เราก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวของหน้ากากฟอกอากาศเจนใหม่นี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะเทคโนโลยีตอบโจทย์ยุคสมัย แก้เพนพอยต์ของการสวมใส่หน้ากากยุคนี้ ที่ทำให้ LG PuriCareTM Gen 2 มีความน่าสนใจและเนื้อหอมในตัวของมันเอง ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบฟอกอากาศสะอาดด้วยแผ่นกรองอากาศ HEPA H13 Class ซึ่งเป็นแผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ช่วยกรองฝุ่น กรองมลภาวะอย่าง PM2.5 ได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน ฟอกอากาศอย่างทั่วถึง ทุกครั้งที่หายใจภายใต้หน้ากากนี้จึงมั่นใจได้ว่าเราได้หายใจเอาอากาศดีๆ เข้าไป แม้จะอยู่ท่ามกลางมลภาวะทางอากาศหฤโหดอย่างฝุ่น PM2.5 ก็ตาม
- ใส่สบาย หายใจไม่อึดอัด เพราะมีระบบพัดลมคู่ (Dual Fan) และเซ็นเซอร์ซึ่งช่วยระบายอากาศตามอัตราความเร็วของการหายใจโดยอัตโนมัติ น้ำหนักเบา ดีไซน์บางกว่าเดิม มอบอิสระในการเคลื่อนไหวในทุกกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน
- เสียงพูดชัดเจนภายใต้หน้ากากฟอกอากาศ ด้วยเทคโนโลยี VoiceON มาพร้อมลำโพงและไมโครโฟนบิวท์อิน สามารถสื่อสารกับบุคคลอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องถอดหน้ากากเข้า-ออกอีกต่อไป
- ดีไซน์ออกแบบด้วยหลักสรีรศาสตร์ จึงรองรับกับทุกสรีระใบหน้า และลดการรั่วไหลของอากาศ ด้วยวัสดุซิลิโคนน้ำหนักเบาเกรดการแพทย์ สวมใส่สบายได้ทุกวัน อีกทั้งรูปลักษณ์ยังดูสวยงาม ทันสมัย มิกซ์แอนด์แมตช์ได้กับทุกลุค
- ในปลายปีนี้ก็จะมีแอปพลิเคชันที่สามารถเชื่อมต่อกับหน้ากากผ่านระบบบลูทูธ เพื่อควบคุมและดูการใช้งานของหน้ากากได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
- และปลายปีนี้อีกเช่นกัน เตรียมจับจองกล่อง UV Case ที่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ถึง 99.99% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที และมอบการใช้งานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง หลังจากชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 120 นาที เพียงเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศหรือชิ้นส่วนทดแทนบางอย่างตามอายุการใช้งาน ก็สามารถกลับมารีเฟรชอากาศสะอาดบริสุทธิ์ได้ใหม่เหมือนเดิม
นับว่านี่คือหน้ากากฟอกอากาศที่รวมทุกความต้องการที่อยากให้มีเอาไว้หมด และไม่เพียงแค่นั้น ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ทีมชาติไทยต้องส่งนักกีฬาไปเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น LG PuriCareTM Gen 2 ก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทย เป็นไอเท็มสำคัญที่นักกีฬานำติดตัวไปใช้ในหมู่บ้านนักกีฬาที่โตเกียว เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางและการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่น
ถัดจากนั้นก็ถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการของหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCareTM Gen 2 ผ่านการไลฟ์บนช่องทางออนไลน์หลัก LG Global Facebook Fanpage เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในการเปิดตัวครั้งนี้ มีคู่จิ้น คิมม่อน วโรดม และ คอปเตอร์ ภานุวัฒน์ มาร่วมสร้างสีสัน โดยมีดีเจคิว คิ้วสาหร่าย เป็นผู้ดำเนินรายการ แน่นอนว่าจากไลฟ์เปิดตัวนี้ เราได้เห็นนวัตกรรมของหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCareTM Gen 2 อย่างเต็มขั้น จากการสวมใส่ใช้งานจริงของทั้ง 3 คน ไม่เพียงแค่นั้น ท้ายงานยังมีการแจกรางวัล LG PuriCareTM Gen 2 สำหรับผู้ที่ร่วมกิจกรรม เพื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์อากาศบริสุทธิ์จากหน้ากากฟอกอากาศนี้ด้วยตัวเอง
นอกเหนือจากทั้ง 3 คนในงานเปิดตัวดังกล่าวแล้ว ยังมีสายเฮลตี้ตัวจริงอย่าง ณัฐ ศักดาทร และ เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา ซึ่งเป็นตัวแทนคนยุคใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และเป็นผู้ใช้งานจริงของ LG PuriCareTM Gen 2 มาร่วมเผยเรื่องราวความประทับใจ กับทุกไลฟ์สไตล์ที่มีหน้ากากฟอกอากาศแสนโมเดิร์นเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับทุกกิจกรรมในการใช้ชีวิต
“ผมกลายเป็นคนที่ใส่ใจกับความสะอาดมากขึ้น ใช้เวลามากขึ้น ละเอียดกับมันมากขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าทุกอย่างมันส่งผลกระทบกับสุขภาพของเราได้ง่าย รวมถึงการที่เราหายใจเอาอะไรเข้าไปในแต่ละโมเมนต์ เดี๋ยวนี้เราเข้าใจแล้วว่ามันส่งผลต่อสุขภาพของเรามากกว่าที่เราคิดด้วยซ้ำ การที่เราใส่หน้ากากฟอกอากาศ เราก็มั่นใจได้ว่าอากาศที่หายใจเข้าไปมันบริสุทธิ์ มีการกรองฝุ่นต่างๆ ซึ่งจำเป็นมากๆ กับชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ วันนี้ ซึ่ง LG PuriCareTM Gen 2 มี HEPA ฟิลเตอร์ที่คอยกรองฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ แล้วสามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย ตัว LG PuriCareTM เป็นเทคโนโลยีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการฟอกอากาศอยู่แล้ว พอมีแบบที่สามารถติดตัวเราไปได้ทุกที่ ก็เหมือนเรามีเครื่องฟอกอากาศติดตัวไปด้วย มันทำให้เรามีความมั่นใจขึ้นในการที่จะออกไปใช้ชีวิตประจำวันในที่ต่างๆ” ณัฐตอกย้ำถึงความประทับใจในหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCareTM Gen 2 ที่มีผลลัพธ์ต่อสุขภาพในมุมมองของเขา
ส่วนเบเบ้ ธันย์ชนก เธอบอกกับเราว่า แม้ช่วงแรกจะต้องปรับตัวกับวิถีชีวิตแบบใหม่ที่มีหน้ากากเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิต แต่ตอนนี้เธอเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น และยอมรับว่า “เราต้องพยายามใช้ชีวิตให้มีผลกระทบต่อตัวเราให้น้อยที่สุด” ซึ่ง LG PuriCareTM Gen 2 ช่วยให้เธอใช้ชีวิตแบบนั้นได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
“การที่เราใส่หน้ากากฟอกอากาศ เราก็มั่นใจได้ว่าอากาศที่หายใจเข้าไปมันบริสุทธิ์ มีการกรองฝุ่นต่างๆ ซึ่งจำเป็นมากๆ กับชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ วันนี้ รวมถึงใส่แล้วไม่อึดอัด พอเราหายใจได้สะดวก เราก็ไม่ต้องใส่ๆ ถอดๆ ก็ยิ่งมั่นใจเวลาที่ใส่ออกจากบ้าน เวลาไปประชุมกับทีมงานที่ต้องมีการพูดคุยกัน ถ้าเกิดว่าเค้าฟังเราไม่รู้เรื่อง บางทีก็ต้องถอดมาสก์เพื่อจะได้พูดสะดวกๆ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องถอดมาสก์แล้วค่ะ เพราะ LG PuriCareTM Gen 2 มีเทคโนโลยี VoiceON ที่พอพูดอะไร เสียงเราจะชัดเจนมากขึ้น เพราะมีทั้งตัวลำโพงและไมโครโฟนบิวท์อิน พูดปุ๊บทีมงานเข้าใจชัดเจน งานเดินไว เวลาที่จะต้องแต่งตัวสวยๆ ไปงานในโอกาสพิเศษต่างๆ หน้ากากฟอกอากาศก็ยังเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา แล้วก็เข้ากับชุด ด้วยความที่ดีไซน์สวย ล้ำ ทันสมัย เข้าได้กับทุกลุค” และนั่นคือเหตุผลที่คนทั้งคู่เลือก LG PuriCareTM Gen 2 ในทุกกิจกรรมนอกบ้านของพวกเขา
ในปลายปีนี้ LG PuriCareTM Gen 2 จะเพิ่มความสมาร์ทขึ้นอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชันเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์กับบลูทูธ เพื่อควบคุมฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เพียงปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับความเร็วของพัดลม, ระดับเสียงของฟังก์ชัน VoiceON, การแจ้งเตือนอายุการใช้งานของ HEPA ฟิลเตอร์ และระบบเปิด-ปิดเครื่อง เป็นต้น
เทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง เราสามารถรักษาสุขภาพที่ดีไว้ไปนานๆ ด้วยการเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะลดขยะจากมาสก์ใช้แล้วทิ้งเพียงครั้งเดียว เพื่อการแสดงออกอย่างที่เป็นตัวคุณได้อย่างเต็มที่ในทุกๆ ไลฟ์สไตล์
ขณะนี้ LG PuriCareTM Gen 2 มีจำหน่ายใน 2 รุ่น 2 สี คือ
หน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare สีขาวครีม คลิก https://bit.ly/3lTAuhs
หน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare สีดำมหาสมุทร คลิก https://bit.ly/3D72801