สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) โดยประธาน จานนี อินฟานติโน และ อาร์แซน เวนเกอร์ ประธานพัฒนาเทคนิค ได้มีการเชิญผู้แทนจากประเทศสมาชิกเข้ารับฟังและร่วมให้ความคิดเห็น แนวคิดการปรับตารางแข่งขันนานาชาติและอธิบายแนวคิดจัดฟุตบอลโลกในทุกๆ 2 ปี ซึ่งเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เป็นรอบของผู้แทนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ เป็นผู้เข้าร่วม และวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นรอบของผู้แทนกัปตันทีมชาติ โดยมี มานูเอล ทอม เบียรห์ เป็นตัวแทนผู้เข้าร่วมจากประเทศไทย
สำหรับเนื้อหาที่นำมาพูดคุยกันระหว่างฟีฟ่าและประเทศสมาชิก จะตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในการศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์กับทุกๆ ฝ่ายได้อย่างมีเหตุผลรองรับการปรับโปรแกรมแข่งขันนานาชาติหรือฟีฟ่าเดย์
โดยพาทิศได้กล่าวเกี่ยวกับเนื้อหาการประชุมว่า “เหตุผลที่ฟีฟ่าให้กับประเทศสมาชิกคือ ปัจจุบันการกำหนดมีช่วงเบรกเพื่อฟีฟ่าเดย์ถึง 5 ครั้งใน 1 ปี โดยครั้งหนึ่งมีเวลาประมาณ 10 วัน และปฏิบัติกันมาตลอดนั้น มีผลเสียเกิดขึ้นกับผู้เล่นโดยตรง กล่าวคือต้องเล่นๆ หยุดๆ ในการลงสนามให้กับสโมสรในระหว่างฤดูกาล รวมทั้งต้องเดินทางระยะไกลและมีความถี่ อาจทำให้นักฟุตบอลเหนื่อยล้าจากการเดินทาง อีกทั้งไทม์โซนที่อาจจะแตกต่างกันอีกด้วย เมื่อนักฟุตบอลขาดการพักผ่อนที่เหมาะสมก็ส่งผลต่อทั้งสโมสรและทีมชาติด้วย
“ตัวอย่างแนวทางที่นำเสนอโดยฟีฟ่า คือการรวบช่วงเวลาฟีฟ่าเดย์ให้เหลือเพียง 2 ครั้งในแต่ละปี แต่เพิ่มระยะเวลาให้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นเดือน เพื่อให้นักฟุตบอลได้ลงเล่นให้กับสโมสรต่อเนื่องเต็มที่ และเมื่อถึงเวลากลับร่วมทีมชาติ ก็สามารถลงแข่งขันให้กับทีมชาติได้หลายแมตช์ ไม่ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์คัดเลือกรอบสุดท้ายในรายการระดับทวีปหรือคัดฟุตบอลโลก และยังมีการบังคับให้มีช่วงเบรกพักการแข่งขันของลีกและทีมชาติประจำปี เพื่อให้นักฟุตบอลได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
“ในขณะเดียวกัน ด้านความน่าสนใจของการแข่งขันนั้น ทางฟีฟ่าแจ้งว่าพยายามลดแมตช์กระชับมิตร ซึ่งไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร จึงกำหนดให้ฟีฟ่าเดย์นั้นเน้นมีระยะเวลาเพียงพอในการจัดเป็นทัวร์นาเมนต์ และหากรูปแบบฟุตบอลโลกทุกๆ 2 ปี ได้รับการเห็นชอบ ก็จะส่งผลให้ฟีฟ่าเดย์แต่ละครั้งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากขึ้น ผู้ติดตามจะคอยติดตามชมรูปแบบการคัดเลือกเข้าใจง่ายมากขึ้นต่อผู้ชม
“อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกชาติสมาชิกจะมองหรือคิดเห็นไปในทางเดียวกันกับฟีฟ่า ซึ่งฟีฟ่าได้รับความคิดเห็นและนำไปศึกษาหาทางออก เพื่อนำมาประชุมหารืออีกครั้งใน FIFA Global Summit ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งในครั้งนั้นจะมีองค์กรอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมหารือด้วย ไม่ใช่เพียงประเทศสมาชิกเท่านั้น”
