ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ประกาศในระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า จีนจะไม่สร้างโรงงานถ่านหินโครงการใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งนับเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก
ที่ผ่านมาจีนได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการถ่านหินในประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม ภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Belt and Road Initiative แต่จีนถูกกดดันให้ยุติการสนับสนุนเงินทุนดังกล่าว ในขณะที่ทั่วโลกพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามความตกลงปารีส (Paris Agreement)
“จีนจะเพิ่มการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในการพัฒนาพลังงานสีเขียวและคาร์บอนต่ำ และจะไม่สร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในต่างประเทศ” สีจิ้นผิง กล่าวผ่านเทปบันทึกวิดีโอที่ได้รับการเผยแพร่ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
สีจิ้นผิง ยังได้กล่าวถึงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อปีที่แล้วว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของจีนจะขึ้นถึงค่าสูงสุดก่อนปี 2030 และจะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี 2060
ทั้งนี้ไม่มีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่คาดว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการขยายโรงงานถ่านหินในประเทศกำลังพัฒนาหลายแห่งภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน
โดยภายใต้โครงการ BRI นั้น จีนให้ทุนสนับสนุนการสร้างทางรถไฟ ถนน ท่าเรือ และโรงงานถ่านหินในหลายประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการถ่านหินในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
จีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก และพึ่งพาถ่านหินอย่างมากสำหรับตอบสนองความต้องการพลังงานภายในประเทศ
จอห์น แคร์รี ทูตด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ ขานรับประกาศดังกล่าว โดยระบุในแถลงการณ์ว่าเขา ‘ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่าประธานาธิบดีสีได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในครั้งนี้’
ด้าน อาล็อก ชาร์มา ประธานการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP26 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ในเดือนหน้า ขานรับข่าวดังกล่าวเช่นกัน
ชาร์มาแสดงความเห็นต่อข่าวนี้ผ่านทาง Twitter ว่า “เห็นได้ชัดว่าโชคร้ายกำลังจะเกิดขึ้นสำหรับพลังงานถ่านหิน ผมยินดีกับคำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีสีที่จะหยุดสร้างโครงการถ่านหินแห่งใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญในการหารือของผมระหว่างการเดินทางเยือนจีน”
ถ้อยแถลงของผู้นำจีนมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกที่องค์การสหประชาชาติ ซึ่งเขาเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทำงานร่วมกันยิ่งกว่าที่ผ่านมา เพื่อจัดการกับปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการระบาดใหญ่
ภาพ: Mary Altaffer – Pool / Getty Images
อ้างอิง: